หุ้น PTT และ PTTEP ราคาวิ่งขึ้น โดยเมื่อเวลา 9.58 น.หุ้น PTT บวก 1.72% มาอยู่ที่ 355 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท มูลค่าซื้อขาย 757.50 ล้านบาท
หุ้น PTTEP บวก 3.64% มาอยู่ที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 329.26 ล้านบาท
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาน้ำมัน WTI พุ่ง 9.3% ปิดที่ 49.44 เหรียญฯ/บาร์เรล หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกแถลงการณ์สามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก อย่างรัสเซียจะทำการลดกำลังการผลิตลง 3 แสนบาร์เรล/วัน จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่มากกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วัน
ผลการประชุมกลุ่มโอเปก เป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมนอกรอบระหว่างโอเปก และนอนโอเปก ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เมื่อปลายก.ย. เป็นการยืนยันถึงเจตนาของโอเปก ที่ต้องการลดปริมาณน้ำมัน และดึงราคาน้ำมันขึ้น ซึ่งหากราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่อง สิ่งที่จะตามมาคือเงินเฟ้อ และจะทำให้นับจากนี้ ปัจจัยด้านเงินเฟ้อ รวมไปถึงการเร่งตัวของอัตราดอกเบี้ย กลายเป็นประเด็นใหญ่สำหรับการลงทุน
วันนี้ราคาหุ้นบมจ.ปตท. (PTT) และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) น่าจะเปิดโดดรับข่าวโอเปก และราคาน้ำมัน ก่อนที่จะลดช่วงบวกตามแรงขายทำกำไร แต่มองว่ายังสามารถที่จะรอซื้อเพื่อเก็งกำไรต่อได้ เนื่องจากการตัดสินใจของกลุ่มโอเปก น่าจะส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในราคาน้ำมันจนไปเกินจุดสูงสุดของปีที่ 52 เหรียญฯ/บาร์เรลได้
ด้านบล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำหุ้น PTTEP ให้ราคาเป้าหมาย ปี 60 ที่ 95 บาท ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 48 เหรียญฯ/บาร์เรล หลังปรับลงไปต่ำสุดบริเวณ 41 เหรียญฯ/บาร์เรล เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากผลการประชุมล่าสุดของโอเปก
ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงไตรมามส 4/59 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 45-55 เหรียญฯ/บาร์เรล ส่วนผลการดำเนินงานของ PTTEP ในช่วงปี 60 สามารถรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่ลดลงได้ เนื่องจากได้มีการทำ hedging ไว้แล้วจำนวน 30% ของการผลิตทั้งหมด ขณะที่ราคาก๊าซฯจะปรับลดลงมาต่ำสุดในช่วงประมาณไตรมาส 1/60 จากการปรับสัญญาราคาขายก๊าซฯตามราคาน้ำมันดิบในช่วงเดือน ต.ค.59 และคาดปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป
พร้อมคาดรายได้ในปี 60 เพิ่มขึ้น 8% อยู่ที่ 173,740 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 17,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% คาด เงินปันผล 2.63 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 3.0%