นายณัฐกิตติ์ ตั้งพลูสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า บริษัททุ่มงบลงทุนราว 300 ล้านบาท จัดแคมเปญ "Lighten Up Together ส่งต่อความดีและพลังใจให้กันและกัน" ตกแต่งไฟประดับ 10 ล้านดวงในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล รวม 30 สาขาทั่วประเทศ และจัดเทศกาลของขวัญที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.59 ถึง 15 ม.ค.60
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บริษัทได้น้อมนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาจุดประกายพลังใจให้กับคนไทย ด้วยการจัดตกแต่งศูนย์การค้าในเครือให้มีความเรียบง่าย งดงาม สว่างไสวด้วยการประดับดวงไฟและตกแต่งของประดับคริสมาสต์ ด้วยสีขาวและสีเขียว รวมถึงจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ และการจุดเทียนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการจุดประกายพลังใจของคนไทย ให้เกิดแรงบันดาลใจ นำคำสอนของพระองค์เป็นแสงสว่างส่องแนวทางเป็นหลักในการดำเนินชีวิต และส่งต่อแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป
ส่วนเทศกาลของขวัญที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีสินค้าหลากหลายมากที่สุด พร้อมให้ลุกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มอบความสุขแก่กัน ซึ่งบริษัทเตรียมจัดโปรโมชั่นปลายปีพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ช้อปและทานอาหารในศูนย์ฯ ลุ้นรับโชค ช้อป 1,000 คืน 10,000 ช้อป 10,000 คืน 100,000 และหากช้อปครบ 5,000 บาท รับฟรี กระเป๋าผ้าดีดี และข้าวกล้องดอยจากโครงการหลวง เป็นต้น
นายณัฐกิตติ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในช่วงจัดแคมเปญนี้ราว 1-2 แสนคน และน่าจะมีเงินสะพัดในงานมากกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่มองการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงไตรมาส 4/59 น่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี เช่น มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 59 เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งดีต่อการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนปรับตัวดีขึ้น และทางศูนย์การค้าก็น่าจะได้รับผลบวกจากมาตรการดังกล่าวไปด้วย พร้อม ๆ กับการที่บริษัทออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้เชื่อว่าจะผลักดันยอดขายช่วงไฮซีซั่นโต 20-30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวและอยู่ในช่วงของงดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ทางศูนย์ฯก็มีกิจกรรมดีดี ภายใต้แนวคิดแบบเรียบง่าย และเน้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งทางภาครัฐก็มีการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปีออกมา ขณะที่เราก็มีกิจกรรม ในช่วงส่งท้ายปี โดยอยากจะเชิญชวนคนไทยและชาวต่างชาติ จุดเทียนตอนเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ภายใต้แนวคิด แสงเทียนแห่งสยาม ซึ่งเราจะไม่มีการจัดกิจกรรมที่มีความครึกครื้น งดจุดพลุ และการแสดงคอนเสิร์ต แต่จะเป็นการแสดงที่เน้นไปทางเรียบง่าย เช่น การร้องเพลงพระราชนิพนธ์"นายณัฐกิตติ์ กล่าว