AOT คาดรายได้งวดปี 60 โต 2 หลัก-กำไรโตจากปีก่อน แม้งวด Q1 ไม่สดใส,ร่างแผนแม่บท Non-Aero

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 2, 2016 11:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มั่นใจงวดปี 60 (สิ้นสุด ก.ย.60) กำไรจะทำได้ดีกว่างวดปี 59 ขณะที่รายได้จะเติบโตต่อเนื่องเป็น 2 หลัก เนื่องจากประเมินจำนวนผู้โดยสารเติบโต 8-9% แม้ในช่วง ต.ค.-พ.ย.จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตต่ำกว่าคาดเพราะได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ช่วงไฮซีซั่น ธ.ค.59 จนถึงต้นปี 60 ที่มีเทศกาลตรุษจีนจะกลับมากระเตื้องขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของภาครัฐมีส่วนช่วยสนับสนุน

นอกจากนี้ ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจการบิน (Non-Aero) ในปีนี้ก็จะเติบโตด้วย โดยมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ตเพิ่มขึ้นหลังดำเนินโครงการขยายท่าอากาศยานเสร็จสิ้นเมื่อปลายงวดปี 59 พร้อมเตรียมวางแผนเม่บทพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดของบริษัทโดยอาจดึงเอกชนเข้ามาร่วมทุนแบบ PPP คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 2 หรือ ไตรมาส 3 ปี 60

ส่วนโครงการลงทนุขยายท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในช่วง 20 ปี (ปี 59-78) ได้ปรับวงเงินรวมเพิ่มเป็น 2 แสนล้านบาท จากเดิม 1.94 แสนล้านบาท หลังเพิ่มการลงทุนขยายท่าอากาศยานภูเก็ตเฟส 3 วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 5 ปีนี้จะใช้เงินลงทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านบาทในการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 พร้อมอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และรันเวย์ รวมทั้งการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3

*งวดปี 60 กำไรโต-รายได้พุ่ง 2 digit, รับรู้ธุรกิจ Non-Aero เพิ่มมากขึ้น

นายนิตินัย สมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ให้สัมภาษณ์"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการในงวดปี 60 กำไรน่าจะเติบโตเช่นเดียวกับรายได้ โดยงวดปี 59 มีกำไรสุทธิ 1.96 หมื่นล้านบาท เติบโต 4.5% จากงวดปี 58 จำนวน 1.87 หมื่นล้านบาท ที่มีการกลับรายการภาษีโรงเรือนและที่ดินค้างจ่ายจำนวน 3 พันล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรายการนี้ กำไรสุทธิงวดปี 59 จะเติบโต 25-26% จากปีก่อนหน้า

สำหรับทิศทางของรายได้ คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก (digit) เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 5.28 หมื่นล้านบาท เนื่องจากประเมินว่าจำนวนผู้โดยสารในงวดปีนี้จะเติบโตขึ้นราว 8-9% เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์)

“ปีนี้เราคิดว่ารายได้จะโต double digit มาจากทั้งธุรกิจ Aero ที่คาดว่าผู้โดยสารปีนี้จะโต 8-9% จากปีที่แล้วผู้โดยสารโต 12.5% และ Non-Aero ที่เราได้พื้นที่สนามบินภูเก็ต และดอนเมือง…ปีนี้ Low Cost Airlines ก็ยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีสัดส่วนมากที่สุดถึง 26%"นายนิตินัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-28 พ.ย.ผู้โดยสารของ AOT เติบโต 4.9% เมื่อเทียบกับงวดปี 59 ที่เติบโต 12.5% โดยในวันที่ 1-31 ต.ค. เติบโต 6.1% และ วันที่ 1-28 พ.ย.เติบโต 3.9% เพราะได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้นักท่องเที่ยวจากจีนลดลง และเรื่องการถวายอาลัยก็มีการชะลอจากนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยบางส่วน

ทั้งนี้ ในช่วง ต.ค.-พ.ย. 59 จำนวนผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลดลงไป 26%

แต่ทั้งงวดปี 60 บริษัทยังคงคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารเติบโต 8-9% โดยคาดว่าในช่วงเดือน ธ.ค.จนถึงเทศกาลตรุษจีนตัวเลขจะขยับขึ้นมาได้อีก เพราะอยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือช่วง High season อีกทั้งนักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มกลับมา จึงยังไม่มีการทบทวนคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารปีนี้

"ผู้โดยสาร drop มาจาก 2 ปัจจัย ต.ค.หลัก ๆ มาจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ และ พ.ย.ก็ยังลงอยู่ ส่วนเรื่องถวายความอาลัย นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอเดินทางในเดือน พ.ย.มีหลายสายการบินหยุด แต่ก็มีสายการบินอื่นที่รอเข้ามาแทน เชื่อว่าคงไม่ได้เป็นสภาพอย่างนี้ทั้งปี "นายนิตินัย กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทยังจะมีรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน (Non-Aero) เข้ามามากขึ้นในงวดปีนี้ เพราะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานดอนเมืองที่ขยายพื้นที่ในเฟส 2 จากปีที่แล้วมีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่มาก เพราะรายได้เข้ามาไม่เต็มปีทั้ง 2 ท่าอากาศยาน

ทั้งนี้ พื้นที่เชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยานภูเก็ต เพิ่มเป็น 1.03 หมื่น ตร.ม.จากเดิมที่มีพื้นที่ 5.2 พัน ตร.ม.ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มเป็น 3.3 หมื่น ตร.ม.จากเดิมมีพื้นที่ 6.1 พัน ตร.ม.

*พร้อมทุ่ม 2 แสนลบ.ขยาย 6 สนามบินตามแผนแม่บท ปี 59-78

นายนิตินัย กล่าวว่า AOT ยังเดินหน้าขยายท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งที่บริษัทจัดทำเป็นแผนแม่บทระยะเวลา 20 ปี (ปี 59-78) วงเงินลงทุนรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท เพิ่มจากเดิมที่วางงบลงทุนไว้ 1.94 แสนล้านบาท เพราะล่าสุดได้เพิ่มแผนขยายท่าอากาศยานภูเก็ต เฟส 2-3 รวมวงเงิน 1.47 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับผู้โดยสารมากขึ้นเป็น 25 ล้านคน/ปี จากแผนเดิมที่ 18 ล้านคน/ปี ซึ่งปัจจุบันรองรับได้ 12.5 ล้านคน หลังจากเห็นแนวโน้มการเติบโตของท่าอากาศยานภูเก็ต

ในช่วง 5 ปีนี้ AOT จะมีการลงทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านบาทในการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ 2 วงเงินลงทุน 6.2 หมื่นล้านบาทคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 62 รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 60 ล้านคน/ปี งานก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท และ อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 (เฟส 3) วงเงิน 3.4 หมื่นล้านบาท คาดแล้วเสร็จในปี 65 เมื่อเสร็จแล้วจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเป็น 90 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันรองรัรบได้ 45 ล้านคน/ปี

และ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง วงเงิน 31,870 ล้านบาท แบ่งเป็นเฟส 2 คือ ปรับปรุงอาคาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วจะรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนปี และเฟส 3 วงเงินลงทุน 2.7 หมื่นล้านบาท คาดแล้วเสร็จปี 65 เพิ่มการรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคน/ปี รวมทั้ง 2 ท่าอากาศยานจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 130 ล้านคน/ปีในปี 65

ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะ 2 ปี 60-65 ต่อเนื่องจากจากระยะ 1 ช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคน/ปี และ โครงการฯ ระยะที่ 3 (ปี 66-68) ใช้เงินลงทุน 1.2 หมื่น ล้านบาท รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 25 ล้านคน/ปี

โครงการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีระยะเวลา 20 ปี (ปี 59-78) ลงทุนรวมกว่า 15,100 ล้านบาท แบ่งเป็นระยะ ที่ 1 (ปี 59-68) เงินลงทุน 9,500 ล้านบาท รองรับ 8.5 ล้านคน/ปี และระยะที่ 2 เงินลงทุน 5,600 ล้านบาท

โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะเวลา ปี 59-73 วงเงินลงทุน 12,780 ล้านคน คาดรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคน/ปี และ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ระยะเวลาดำเนินการปี 59-73 วงเงินลงทุน 6,200 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้ 3.3 ล้านคน/ปี

ทั้งนี้ แผนแม่บทขยายท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของบริษัท ระยะ 20 ปี (ปี 59-78) จะรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 190 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันรองรับผู้โดยสารทั้งหมด 83.5 ล้านคน จะรนำเสนอแรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในเร็วๆนี้

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า บริษัทไม่กังวลเรื่องเงินลงทุน เพราะปัจจุบันมีเงินสดในมือ 6.1-6.2 หมื่นล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานปีละเฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาท แต่ในปี 61-62 อาจมีเงินสดไม่มากพอในกรณีที่โครงการไม่ล่าช้าออกไป บริษัทได้พิจารณาแหล่งเงินกู้ในประเทศ

*ยกร่างแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์หนุนธุรกิจ Non-Aero เพิ่ม เล็งเปิดทางเอกชนร่วมทุน

นายนิตินัย กล่าวว่า บริษัทยังอยู่การวางแผนแม่บทพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน (Non-Aero) ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที้เป็ยจำนวนมาก โดยในงวดปี 59 ได้ว่าจ้างที่ปรึกษา และหารือคณะทำงานที่มีกรมธนารักษ์ กองทัพอากาศ และ กรมท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความชัดเจนในการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละส่วนมาพัฒนาเในเชิงพาณิชย์ รูปแบบโรงแรม และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เพราะที่ผ่านมาติดเงื่อนไขการใช้ที่ดิน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะทำงานเห็นชอบและตรวจรับผลการศึกษาแล้ว อยู่ระหว่างการนำไปแก้ไขระเบียบการใช้ที่ดินราชพัสดุ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาว 2 หรือไตรมาส 3 ของปี 60 หลังจากนั้นจะออกแผนแม่บทธุรกิจออกมาได้ชัดเจน อาจจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP เพื่อพัฒนาโครงการในลักษณะ Airport City หรือ Shopping Mall

อนึ่ง ในงวดปี 59 รายได้ของ AOT แบ่งเป็นจากธุรกิจการบิน 57% และ ธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน 43%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ