สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยคำสั่งคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบผู้กระทำผิด 2 ราย กรณีใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น บมจ. ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (TIES) ได้แก่ 1) นายอัศวิน ชินกำธรวงศ์ 2) นางสาวอรศิรี ชินกำธรวงศ์ ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิดของนายอัศวิน
ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายอัศวินซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัท TIES ได้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2557 ของ TIES ที่จะมีผลขาดทุนเป็นจำนวนมาก โดยผลขาดทุนครึ่งหนึ่งเกิดจากกรณีที่ TIES ถูกยกเลิกสัญญาโครงการก่อสร้างโครงการหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน
โดยระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2557 นายอัศวินได้ใช้ข้อมูลภายในดังกล่าว ขายหุ้น TIES ที่อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ในชื่อของบุตรสาวคือนางสาวอรศิรี จำนวน 8,651,400 หุ้น ก่อนที่ผลประกอบการขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2557 จะเปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้นายอัศวินได้รับผลประโยชน์จากการหลีกเลี่ยงผลขาดทุน
การกระทำของนายอัศวินข้างต้นเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ) และมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน โดยนายอัศวินยินยอมเปรียบเทียบปรับ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 4,333,480.50 บาท
ทั้งนี้ การถูกเปรียบเทียบดังกล่าว ทำให้นายอัศวินมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจให้เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จนกว่าจะพ้นระยะเวลาที่กำหนด ซึ่ง ก.ล.ต. กำหนดได้สูงสุด 3 ปี ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
กรณีนางสาวอรศิรีได้ช่วยเหลือนายอัศวินโดยการให้ขายหุ้น TIES ผ่านบัญชีของตน ดังนั้น การกระทำของนางสาวอรศิรี จึงเป็นความผิดในฐานะผู้สนับสนุนตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นางสาวอรศิรียินยอมเปรียบเทียบปรับ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 333,333.33 บาท
อนึ่ง TIES ได้เปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์เป็น “T" เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558