นางสาวนีรชา ปานบุญห้อม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีออยล์(SEAOIL) คาดว่าผลการดำเนินงานปี 60 จะพลิกมีกำไรสุทธิจากปีนี้ที่อาจจะยังมีผลขาดทุน หลังในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีผลขาดทุนสุทธิ 16.64 ล้านบาท
บริษัทมองว่าปีหน้าธุรกิจมีแนวโน้มสดใสหลังราคาน้ำมันสูงขึ้นจะช่วยหนุนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ขณะที่โรงแยกคอนดอนเสทมีแผนจะเปิดดำเนินการในไตรมาส 1/60 ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์โซลเว้นท์ออกมาจำหน่ายในตลาด และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) ที่คาดว่าจะเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ รับรู้รายได้และกำไรเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/60 ช่วยหนุนผลประกอบการโดยรวม
"ปีนี้เรามีภาระค่าใช้จ่ายการลงทุนใหม่ค่อนข้างเยอะ ทำให้อาจจะเห็นตัวเลขไม่สวยนัก อาจจะขาดทุนก็เป็นไปได้ แต่ปีหน้าก็จะกลับมาสดใส รายได้จากการลงทุนใหม่ก็จะเข้ามา cover และเราก็มีวิธีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้นด้วย"นางสาวนีรชา กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว SEAOIL มีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการบริการ 2.77 พันล้านบาท ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีผลขาดทุนสุทธิ 16.64 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการบริการ 2.77 พันล้านบาท
นางสาวนีรชา กล่าวว่า รายได้ในปี 60 จะเติบโตราว 10% จากปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตจากรายได้ธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามา โดยเฉพาะโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 10 โครงการ ขนาดรวม 7.825 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งอยู่ระหว่างการจะเข้าซื้อกิจการทั้งหมด และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เนื่องจากเป็นโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว
ขณะที่ในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้งน้ำมัน ก็มีแผนจะขยายตลาดเพิ่มเติม และจะเน้นการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวมากขึ้น จากปัจจุบันที่เน้นการขายในตลาดจร (spot) เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ผันผวน
นอกจากนี้ การปรับปรุงโรงแยกคอนเดนเสท ขนาด 1.8 แสนลิตร/วัน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาส 1/60 โดยมีโซลเว้นท์ เป็นผลิตหลักนั้น ก็มีแผนจะจำหน่ายให้กับกลุ่มโรงงานสี และอื่น ๆ ซึ่งบริษัทมีตลาดรองรับอยู่แล้ว ซึ่งจะนับเป็นการผลิตครั้งแรกของโรงแยกคอนเดนเสท หลังได้เข้าซื้อกิจการบริษัท นครชัยปราการ เคมีภัณฑ์ จำกัด (NPC) มาตั้งแต่ปี 58 ส่วนการผลิตไบโอดีเซล ขนาด 3 หมื่นลิตร/วันนั้น ของ NPC ก็ยังดำเนินการต่อไปโดยไม่ได้มีแผนการขยายเพิ่มเติม
ส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่บริษัทเข้าไปร่วมทุนราว 50% ใน Pan Orient Energy (Siam) Limited (POES) นั้น ในปีนี้ก็อาจจะยังรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนอยู่จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และมีภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุนขุดเจาะหลุมน้ำมัน แต่ในปีหน้ามีโอกาสที่จะได้เห็นผลการดำเนินงานเป็นบวกได้ จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้น และการลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงมีโอกาสที่จะสามารถผลิตปิโตรเลียมได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ผลิตราว 500 บาร์เรล/วัน
นางสาวนีรชา กล่าวว่า สำหรับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะทำให้ธุรกิจเทรดดิ้งน้ำมันมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น แต่ก็จะกระทบในส่วนของธุรกิจขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้มีกำไรน้อยลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามระดับราคาน้ำมัน ณ ปัจจุบันที่ราว 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็นับว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
ขณะเดียวกัน บริษัทยังอยู่ระหว่างการมองหาโอกาสและศึกษาการลงทุนใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ในส่วนธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ และโครงการพลังงานทดแทนใหม่ ๆ นอกเหนือจากการจะเข้าซื้อโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 10 โครงการครั้งนี้แล้ว ซึ่งเป็นแผนงานประจำปีที่กำหนดไว้ โดยบริษัทยังคงมีเงินลงทุนเพียงพอที่จะรองรับการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มเติม หลังจากที่ได้รับอนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ไปก่อนหน้านี้ 2 พันล้านบาท และได้ใช้ไปแล้วราว 1 พันล้านบาท