นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) คาดว่ารายได้ปี 60 จะเติบโตอย่างมากแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้เติบโต 20% จาก 3.9 พันล้านบาทในปีก่อน หลังในปีนี้แทบไม่มีงานใหม่เข้ามา โดยสามารถรับงานใหม่ได้เพียง 800 ล้านบาท ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงระดับ 306 ล้านบาทในปีก่อน
แต่ในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามามากขึ้นจากสิ้นไตรมาส 3/59 ที่มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 4.67 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/59 ประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าจะลงนามสัญญารับเหมาก่อสร้าง (EPCC) โครงการเหมืองแร่โปแตช ของบมจ.อาเซียนโปแตซชัยภูมิ (APOT) ที่มีมูลค่างานประมาณ 3.34 หมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาส 1/60 และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 60 ราว 5.6-6.0 พันล้านบาท โดยมีระยะเวลางานกว่า 2 ปี หรือสิ้นสุดในปี 62
ทั้งนี้ การเซ็นสัญญารับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว มีความล่าช้าจากแผนเดิม เพราะติดปัญหาทางกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ยังไม่ใส่เงินเข้ามาตามขั้นตอนดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้เคลียร์ปัญหาจบแล้ว และอยู่ระหว่างเจรจาสถาบันการเงินเพื่อกู้เงินลงทุนในโครงการ
นอกจากนี้ APOT ก็มีแผนจะเพิ่มทุนในปีหน้าเพื่อรองรับการดำเนินการโครงการ ซึ่งบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้น ก็เตรียมที่จะใส่เงินเพิ่มทุนในส่วนนี้เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในระดับ 25% โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการออกหุ้นกู้จำนวน 2 พันล้านบาท
นายภาสิต กล่าวอีกว่า ในปี 60 ยังมีโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากสถานีควบคุมความดันก๊าซธรรมชาติราชบุรี- วังน้อย ไปยังจ.ราชบุรี ของบมจ.ปตท. (PTT) ระยะทาง 119 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าโครงการประมาณ 8.2 พันล้านบาท ซึ่งวันนี้เริ่มขายซองเอกสารประมูลงาน โดย TRC จะจับมือพันธมิตร ซึ่งจะเจรจาทั้งพันธมิตรเดิม คือ Sinopec และพันธมิตรอื่น ทั้งนี้ คาดว่าจะรู้ผลประมูลโครงการดังกล่าวได้ในปลายไตรมาส 1/60 หรือต้นไตรมาส 2/60 และหากได้รับงานก็คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ราว 5 พันล้านบาท ตามสัดส่วนการร่วมทุน
นอกจากนี้ปตท.ยังจะเปิดประมูลโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 พื้นที่พาดผ่าน 8 จังหวัดคือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี กรุงเทพฯ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ระยะทาง 435 กม. มูลค่าโครงการประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแบ่งออกเป็น 2 เฟส และเปิดประมูลภายในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะรู้ผลการประมูลในปลายไตรมาส 2/60 หรือต้นไตรมาส 3/60
ขณะเดียวกันบริษัท สหการวิศกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะเข้าร่วมงานประมูลโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เตรียมจะเปิดประมูลเร็ว ๆ นี้ด้วย โดยจะหาพันธมิตรเข้ามาร่วม ซึ่งระหว่างนี้เจรจากับ ไชน่าเรลเวย์
นายภาสิต กล่าวว่า บริษัทวางแผนจะลงทุนโครงการพลังงาน และโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท หากช่วงไหนไม่มีงานประมูลใหม่เข้ามาก็ยังประคองธุรกิจไปได้ โดยมีแผนเข้าลงทุนโครงการด้านพลังงานในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ โรงไฟฟ้าถ่านหินที่กัมพูชา ขนาดกำลังการผลิตกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าปีหน้ามีโอกาสชัดเจนขึ้นหลังจากรัฐบาลกัมพูชาได้ทำแผนกำลังการผลิตไฟฟ้าเสร็จแล้ว และลงทุนคลังน้ำมันในกัมพูชา มูลค่าราว 400-500 ล้านบาท รวมทั้งสนใจเข้าไปลงทุนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาวด้วย
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนจากรายได้ประจำเป็นราว 15% ในปี 63 โดยปัจจุบันถือหุ้นในบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัดสัดส่วน 25% ซึ่งประเมินว่าจะมีกำไรปีละ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทจะรับรู้กำไรตามสัดส่วนคือ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรายได้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีกำลังการผลิต 1.3 ล้านตัน/ปี
"TRC ช่วงนี้เน้นปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้ตัวเองคล่องตัว การมีวินัยการใช้เงิน อัตราการทำกำไร เรายังเติบโตได้อย่างมั่นคง การปรับโครงสร้างเพื่อเน้นรับงาน project ใหญ่ ๆ เราก็มีการเตรียมพร้อมเรื่องกระแสเงินสดไว้"นายภาสิต กล่าว