บมจ.โฮม พอตเทอรี่ (HPT) ตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 15-20% จากปีนี้ตามแผนเพิ่มช่องทางขาย และการรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ Central Hospitality เพื่อจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร ระดับ 3-5 ดาว ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 60 ล้านบาท
นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ของ HPT กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 จะเติบโตได้ 15-20% จากปีนี้ที่มั่นใจว่าจะทำรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ 15% จากระดับ 115 ล้านบาทในปี 58 โดยแนวโน้มยอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/59 และปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่องถึงช่วงเดือนก.พ. 60 ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า อาทิการเปิด Central Hospitality นอกจากนี้ยังเน้นการเข้าไปทำการตลาดในประเทศที่การเปิดตัวของโรงแรม ร้านอาหารจำนวนมาก ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมงบลงทุนไว้ราว 10 ล้านบาทในปีหน้า เพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3.6 ล้านชิ้น/ปี และยังเป็นการเพิ่มรายละเอียดของสินค้าให้มากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าสินค้าต่อชิ้นให้มีมาร์จิ้นสูงขึ้น ซึ่งจะหนุนให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ราว 8-10% จากปัจจุบันอยู่ระดับ 8.07%
"สถานการณ์โดยรวมค่อย ๆ กลับมาดีขึ้น หลังกำลังการผลิตของเรามากขึ้น และเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง ทำให้คำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเรายังมีการขยายช่องทางการตลาด และทำการตลาดในประเทศใหม่ ๆ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าผลประกอบการปีหน้าจะเติบโตได้ 15-20% ตามเป้าหมาย"นางสาวนิจวรรณ กล่าว
นางสาวนิจวรรณ กล่าวว่า สำหรับสินค้าของ Central Hospitality เป็นสินค้าคุณภาพจากแบรนด์สินค้าชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ โดยปัจจุบันมีสินค้าที่จัดจำหน่ายแบ่งออกเป็น 24 กลุ่ม กว่า 5,000 รายการ อาทิ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทั้ง แก้ว จาน ชาม ช้อนส้อม, อุปกรณ์เตรียมประกอบอาหาร เช่น มีด เครื่องบด เครื่องปั่นผสม, ตู้แช่แข็ง, ชุดครัวสเตนเลส ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมทุกประเภทและลักษณะการใช้งานในการประกอบอาหารสำหรับอุตสาหกรรมบริการ
ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีทั้งหมด 6 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.พนักงานขาย (Sale Representative) 2.เว็บไซต์ (Web order) 3.โทรสั่งซื้อสินค้า (Call Center order) 4.โทรสั่งซื้อสินค้าทางโทรสาร (Fax order) 5. สั่งซื้อสินค้าทาง E-Mail (E-Mail order) และ 6.ลูกค้าสามารถมาเลือกซื้อด้วยตนเอง (Cash & Carry)
นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร ของ HPT กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจ Central Hospitality นั้น เป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศนิวซีแลนด์ จัดตั้งบริษัท Central Hospitality จำกัด เพื่อจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร ระดับ 3-5 ดาว โดย HPT มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 75% และพันธมิตรถือ 25% ของทุนจดทะเบียนมูลค่า 40 ล้านบาท ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้จากการระดมทุน
โดย Central Hospitality จะเริ่มต้นขยายตลาดในกรุงเทพฯให้ประสบผลสำเร็จก่อน แล้วจึงจะขยายตลาดออกไปตามหัวเมืองใหญ่ และในอนาคตวางแผนขยายไปสู่กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เช่น กัมพูชา เมียนมา ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ ทั้งนี้คาดว่าหลังจาก Central Hospitality เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าโรงแรมและร้านอาหาร จนสามารถเพิ่มยอดขายให้เติบโตได้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้ายอดขายปีแรก 60 ล้านบาท
"Central Hospitality เป็นธุรกิจใหม่ของ HPT ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการรุกตลาด AEC โดยโชว์รูมสาขาแรกที่กรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครบครันสำหรับธุรกิจบริการด้านอาหารแบบครบวงจร เสมือนว่าอยากเปิดร้านอาหารต้องมาที่ Central Hospitality ครบจบในที่เดียว"นายนิรันดร์ กล่าว
นายนิรันดร์ กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงแรมและร้านอาหารทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน มีแนวโน้มเติบโตอย่างเห็นได้ชัด จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหาร ต่างปรับตัวเพื่อรองรับโอกาสการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มสาขา เพิ่มจำนวนโรงแรม ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจใหม่ดังกล่าว เพื่อรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ