นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) กล่าวว่า บริษัทฯคาดรายได้ในปี 60 น่าจะเติบโตได้ราว 10% จากช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เดิม Direct Service และ Call Center และช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ E-commerce ขณะที่คาดอัตรากำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 25-30% จากไตรมาส 3/59 ขยับมาที่ 26.97%
ทั้งนี้การร่วมทุนที่เหลืออีก 2 บริษัท เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ผ่านช่องทางดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง และเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมทาภายนอก และเครื่องสำอาง ของ APCO นั้น บริษัทฯคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนถึงการร่วมทุนได้ภายในปีนี้ จำนวน 1 บริษัท และอีก 1 บริษัท ยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้ข้อตกลงทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม วางกรอบระยะเวลาดำเนินงานภายในปี 60
นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนที่น่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้นั้นจะร่วมทำธุรกิจอีคอมเมิร์ชจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ไปทั่วโลกภายใต้ชื่อบริษัท เอซี พลัส โกลบอล จำกัด ซึ่ง APCO และพันธมิตรในประเทศจะถือหุ้นฝ่ายละ 50:50 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปสู่ต่างประเทศ โดยพันธมิตรมีฐานลูกค้าในประเทศเวียดนาม ฟิลลิปปินส์ และออสเตรเลียอยู่แล้ว
ส่วนบริษัทร่วมทุนอีก 1 แห่ง คือ บริษัท สมาพันธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทครีมทาภายนอกและเครื่องสำอาง เช่น ยาทาคลายปวดกล้ามเนื้อ และยาทาแผล ซึ่งพันธมิตรมีความสามารถและความชำนาญในการทำการตลาดและจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นโอกาสที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าวของบริษัทที่มียอดขายไม่ได้ดีมากนัก สามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง โดยจะมีสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายฐานเข้าถึงผู้บริโภคในทุกระดับ ผ่านช่องทางการตลาดอีคอมเมิร์ซ และสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ APCO ผ่านศูนย์ BIM Health Center ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิสมดุล พร้อมทั้งพัฒนาวิธีการจัดจำหน่าย และเสริมศักยภาพการวิจัย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แก่ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ป่วยมะเร็ง โดยเน้นกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในประเทศไทย และ AEC เพื่อก้าวเข้าสู่มาตรฐาน APCO 4.0
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดรายได้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% จากปีก่อนทำรายได้ 415.83 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์มีกระแสตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้า จากการแนะนำข้อมูลผลิตภัณฑ์และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค อีกทั้งยังมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางรายการโทรทัศน์ ช่องทางออนไลน์ และการเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาปรึกษาที่ ศูนย์ BIM Health Center ส่งผลให้กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีการขยายตัว และมียอดขายปรับตัวดีขึ้นทั้งในช่องทาง Direct Service และ Call Center