โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF) คาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4/59 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ได้รับผลกระทบการจัดงานอีเว้นท์ลดลง แต่ศูนย์การค้าของบริษัทส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้าและบริการประเภทอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน ทำให้ยังมีผู้ใช้บริการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอสพลานาด รัชดา และเมกาบางนา ที่ยังมีการเติบโตที่ดี
ทั้งนี้ มองว่า SF เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างมีความมั่นคง จากรายได้ค่าเช่าที่ปรับขึ้นได้ในทุก ๆ ปี และการลงทุนเพื่อขยายพื้นที่เช่า ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้น SF พักเที่ยง อยู่ที่ 6.05 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.15%
ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 9.00
บัวหลวง ซื้อ 8.00
ทิสโก้ ซื้อ 7.30
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 7.20
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง คาดว่า กำไรจากการดำเนินงานของ SF ในไตรมาส 4/59 จะเติบโตได้เล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส 3/59 แม้ว่าไตรมาสนี้จะมีการจัดงานอีเว้นท์ลดลงจากปัจจัยภายในประเทศ แต่ถือว่าเป็นผลกระทบในกรอบจำกัด เนื่องจากศูนย์การค้าของบริษัทส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้าและบริการประเภทอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ เอสพลานาด รัชดา ที่ตั้งอยู่ในย่านสำนักงาน คาดว่ายังมีผู้ใช้บริการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิของ SF ในปีนี้เพิ่มขึ้น 12% เป็น 1.02 พันล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับกำไรที่บันทึกเข้ามาจากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ SF ทำกำไรสุทธิได้แล้ว 772.05 ล้านบาท โดยประมาณการกำไรหลักปี 59-60 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ที่ 917 ล้านบาท และ 996 ล้านบาท
อีกทั้ง SF ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต และมีโอกาสปรับกำไรขึ้น จากการปรับปรุงพื้นที่เช่าในโครงการเพชรเกษมจากพื้นที่เช่าของโบว์ลิ่งเดิมเป็นร้านค้าปลีก ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ค่าเช่าให้กับบริษัทในอนาคต
ด้าน นางสาวสุธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรของ SF ในไตรมาส 4/59 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะโครงการเมกาบางนายังเติบโตดีช่วยหนุน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของผู้เช่าหลักในโครงการศูนย์การค้าเพชรเกษม พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ พื้นที่เช่ารวม 10,000 ตารางเมตร อีกทั้งยังมีผู้เช่ารายใหม่ คือ Index Living Mall เช่าพื้นที่ทำตลาดนัดติดแอร์ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.นี้ ส่งผลให้ SF มีรายได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกำไรในไตรมาส 4/59 กับไตรมาสก่อนหน้าคาดว่าจะชะลอลง เพราะมีการยกเลิกจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ต.ค.เป็นต้นมา และการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จาก บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ลดลง ทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าอาจจะเห็นการชะลอตัวไปบ้าง ทั้งนี้ หากมองในระยะ 2-3 ปี ผลการดำเนินงานของ SF ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการปรับปรุงและขยายโครงการเดิม ทำให้มีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นและสามารถปรับค่าเช่าได้เพิ่มขึ้น
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า SF ยังเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างมั่นคง จากรายได้ค่าเช่าที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ในทุก ๆ ปี และมีการขยายพื้นที่เช่าจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิในปี 60 ของ SF ยังทรงตัวจากปี 59 ที่ 953 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีการบันทึกการตัดจำหน่ายมูลค่าสินทรัพย์กว่า 140-150 ล้านบาท ซึ่งในปี 59 จะมีเพียง 35-45 ล้านบาท
ขณะที่โครงการส่วนใหญ่ที่สร้างรายได้ค่าเช่าเพิ่มให้กับ SF เริ่มมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยบริษัทจะเริ่มมีการทยอยรับรู้รายได้จากการโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพิ่มเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/59 อย่างเช่น โครงการเมกาบางนา ที่เพิ่มพื้นที่ร้านค้าปลีกและโซนอาหารอีก 10,000 ตารางเมตร จะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 4/59
ส่วนผู้เช่ารายใหม่ของโครงการศูนย์การค้าเพชรเกษม พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ ทั้ง 2 รายใหม่ พื้นที่เช่ารวม 20,000 ตารางเมตร จะเริ่มมีรายได้ค่าเช่าเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/60 หลังการเปิดให้บริการ และโครงการเจเจ วัน มอลล์ พื้นที่ 5,000 ตารางเมตรจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 1/60 เช่นกัน