(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้เจอแรงขายทำกำไรวิตกสัญญาณเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีหน้ามากกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 15, 2016 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเจอแรงขายทำกำไร (profit taking) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลง ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้ประโยชน์จากเงินเยนอ่อนค่า เนื่องจากตลาดฯทั่วโลกวิตกเกี่ยวกับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯเพิ่มมากกว่าคาดเป็น 3 ครั้งในปี 60 จากเดิมที่มองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ทำให้ตลาดเกิดใหม่วิตกเงินทุนไหลออกมากขึ้นได้ และจะส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) รวมถึงพลังงานย่อตัวลง

นอกจากนี้ ตลาดฯก็ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วด้วย ดังนั้น จึงอาจเป็นจังหวะของนักลงทุนที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการขายทำกำไร ส่วนการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ที่ระดับ 0.25% เป็นไปตามที่คาดการณ์ และสุนทรพจน์ที่ออกมายังแสดงจุดยืนการใช้นโยบายการเงินในลักษณะผ่อนคลาย อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตาทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯคืนนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,515-1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 ธ.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,792.53 จุด ร่วงลง 118.68 จุด (-0.60%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,436.67 จุด ลดลง 27.16 จุด (-0.50%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,253.28 จุด ลดลง 18.44 จุด (-0.81%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 74.09 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 14.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 198.91 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 31.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 14.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 15.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 7.55 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 36.68 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ธ.ค.59) 1,521.25 จุด ลดลง 8.96 จุด (-0.59%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 199.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 ธ.ค.59) ปิดที่ 51.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.94 ดอลลาร์ หรือ 3.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ธ.ค.59) ที่ 5.82 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.69/74 แนวโน้มอ่อนค่าต่อหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด มองกรอบวันนี้ 35.60-35.80
  • ร.ฟ.ท. ประกาศทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง เปิดขายซองประมูลระหว่าง 14 ธ.ค. 59-5 ม.ค. 60 เร่งโครงการระยะแรก ขณะที่ คตร.ทิ้งทวนส่งหนังสือถึง ผู้ว่าฯ สตง. ลงวันที่ 6 ธ.ค.ขอให้ตรวจสอบทีโออาร์ทางคู่ ทั้ง 5 เส้นทาง เหตุยังหมกเม็ด ล็อกสเปก ทำราคากลางสูงเกินจริง ประเทศสูญงบประมาณ ระบุช่วง ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ลดสะพานจาก 167 เหลือ 115 สะพาน แต่ราคาเท่าเดิม
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีนโยบายให้จัดทำเป็นงบประมาณแผ่นดินปี 2561 เป็นงบขาดดุล และให้ดำเนินการตั้งงบกลางปีไว้ด้วย เพราะต้องการให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีงบประมาณ โดยมีเป้าหมายให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ระดับ 4-5%
  • กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ห้างค้าส่ง ค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ จัดงาน "รวมใจ ช่วยไทย ลดรับปีใหม่" โดยจะลดราคาสินค้าทุกชั้นทุกแผนกเพิ่มจากการส่งเสริมการขายปกติ มีจำนวนสินค้าเข้าร่วมมากกว่าปกติ และลดสูงสุดถึง 80% จะจัดใน 1.35 หมื่นสาขาทั่วประเทศ เริ่มวันที่ 15 ธ.ค. 2559-4 ม.ค. 2560 รวม 21 วัน
  • แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต เผยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในช่วง 2 เดือนของปีงบประมาณ 2560 (เดือน ต.ค.-พ.ย. 2559) สามารถจัดเก็บได้ 8.42 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 3,009 ล้านบาท หรือ 3.45% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีหลายประเภทต่ำกว่าเป้า โดยภาษีรถยนต์จัดเก็บได้ 1.52 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1,100 ล้านบาท หรือ 6.75% นอกจากนี้ภาษีสุรายังจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 1,800 ล้านบาท หรือ 16.9% โดยจัดเก็บได้ 8,800 ล้านบาท ภาษียาสูบจัดเก็บได้ 1.09 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1,763 ล้านบาท หรือ 13.92% และภาษีเครื่องดื่มต่ำกว่าเป้า 335 ล้านบาท หรือ 11.34%
  • สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ หวังมูลค่าส่งออกปี 2560 แตะ 4 แสนล้านบาท โต 5% เตรียมจัดงานแฟร์กลางปี กระตุ้นยอด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCB (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 172 บาท สินเชื่อเติบโตที่สุดในกลุ่ม 10M59 สินเชื่อสุทธิเติบโต 4.2% แต่ NPL มีโอกาสเพิ่มขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิปี 59 ราว 4.6 หมื่นลบ. -3% คาดกำไรปี 60 ราว 4.94 หมื่นลบ. +7% และมีอัพไซต์ใน 4Q59 – 1Q60 ในการกลับสำรองหนี้สูญจำนวน 1.1 หมื่นลบ.ลูกหนี้กลุ่ม SSI
  • AAV (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8.20 บาท ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นไม่เป็นความเสี่ยงเพราะ hedge ไว้จนถึง 4Q17 แล้วถึง 72% ที่ราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยปีนี้เพียง 6% แต่ความเสี่ยงคือการแข่งขันที่รุนแรงมาโดยตลอดทำให้ต้องทำโปรโมชั่นเป็นระยะ แต่เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +99% Y-Y ปีหน้า +16% Y-Y ตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และจากความเป็นผู้นำ มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาด Low cost airline และการเปิดเส้นทางบินใหม่
  • JMT (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 20.60 บาท จากการพูดคุยกับผู้บริหารทำให้ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจบริหารหนี้ โดยความต้องการในการระบายหนี้เสียของสถาบันการเงินมีแนวโน้มสูงต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า บวกกับสภาพคล่องของบริษัทที่เพิ่มขึ้นภายหลังการลดสัดส่วนการลงทุนในบริษัทลูก ทำให้บริษัทไม่มีปัญหาด้านเงินทุนในการขยายพอร์ตหนี้เสียเพิ่ม สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q59 อาจเห็นกำไรเติบโตต่อเนื่อง
  • NYT (เคจีไอ) เป้า Consensus 17.3 บาท ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีหน้าฟื้นตัว และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า (เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ) เป็นบวกต่อภาคการส่งออก นอกจากนี้ คาด NYT ที่ทำธุรกิจท่าเรือ (เน้นส่งออกรถยนต์ และมีส่วนแบ่งตลาดฯ 80%) จะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการส่งออกรถยนต์ในปีหน้า พร้อมประเมินแนวรับ 13.8 บาท แนวต้าน 14.4 บาท และถัดไป 15.0 บาท (Stop loss 13.5 บาท)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ