KTBST มอง SET ลงตาม ตปท.ให้กรอบ 1,516-1,530 จุดรับข่าวคาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยปีหน้ามากกว่าเดิม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 15, 2016 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดอื่นๆ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดเองขาดข่าวในเชิงบวกเข้ามาในวันนี้ มองกรอบดัชนีที่ 1,516-1,530 จุด

ผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นสำคัญส่งท้ายปีนี้ โดยที่คณะกรรมการ FOMC ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.50-0.75% ตามที่ตลาดคาด พร้อมทั้ง ปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยที่จะขึ้นปีหน้าเช่นกัน จาก 2 เป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% และยังมีการปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐในปี 60 ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือน ก.ย. จาก 2.0% เป็น 2.1%

ผลตอบรับของตลาดหุ้นสหรัฐฯคือไปในทางลบ แต่น้ำหนักที่ทำให้ดัชนี Dow Jones ลดลง มาจากการลดลงของราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน เป็นผลจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ (Dollar Index ปรับตัวสูงขึ้น 1.1%) ทั้งนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นลบมาถึงตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบในคืนที่ผ่านมา เป็นลบจากการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์ แม้ตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะลดลงถึง 2.6 ล้านบาร์เรลก็ตาม

ส่วนปัจจัยในประเทศ แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ จะเป็นตัวกระตุ้นให้แนวโน้มเศรษฐกิจรวมทั้งผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นที่จะมีการขยายตัวตามภาวะเศรษกิจ หากแต่จะเห็นว่าหุ้นในกลุ่มธนาคาร ยังถูกขายออกมาเป็นระยะๆ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังขาดความมั่นใจในปัญหาหนี้ที่ไม่เกิดให้เกิดรายได้ (NPLs) และผลการดำเนินงานในอนาคตของหุ้นในกลุ่มนี้ และเป็นกลุ่มหนึ่งที่ถ่วงตลาด ขณะที่แรงซื้อที่ยังกระจุกตัวอยู่ในหุ้นบางตัว เช่น Domestic Play หรือหุ้นที่มีข่าวบวก นั้น ทำให้การสูงขึ้นของดัชนีฯ เป็นไปในกรอบที่จำกัด

ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นในวันนี้ คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดอื่นๆหลัง Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดเองขาดข่าวในเชิงบวกเข้ามาในวันนี้ สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ความผันผวนของตลาดน่าจะสูงขึ้น เพราะนักลงทุนจะเริ่มไม่แน่ใจในทิศทางตลาด ว่าจะไปในทางใด นักลงทุนอาจเลือกที่จะรอดูทิศทางตลาดก่อน หรือรอซื้อในจังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมา สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ CPALL, UNIQ, ILINK, MC, CHO


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ