นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรสุทธิในปี 60 คาดว่าจะดีกว่าปีนี้ โดยจะมีปัจจัยหนุนมาจากการคาดการณ์ว่าบริษัทจะบันทึกกำไรพิเศษจากการชนะคดีที่คู่กรณีได้ผิดสัญญาใช้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์ประกอบ Fiber to the Factory (FTTX) ภายในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง โดยคาดว่าค่าเสียหายที่ได้รับจะมากกว่า 650 ล้านบาทของคดีความทั้ง 2 ส่วน
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับคู่กรณีในการเรื่องค่าเสียหายที่คู่กรณีต้องชำระให้กับบริษัท ซึ่งคาดว่ามีโอกาสได้ข้อสรุปภายในช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค.59 หรืออย่างช้าในช่วงต้นปี 60
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนกำไรจากมาจากรายได้ประจำให้เพิ่มขึ้นในปีหน้า โดยปัจจุบันสัดส่วนกำไรจากรายได้ประจำของบริษัทถือว่าทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% ในปีนี้แล้ว ซึ่งปัจจุบันเพิ่มมาอยู่ที่ 15% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทเดินหน้าหาลูกค้าเข้ามาเช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น โดยบริษัทยังคงเป้าสัดส่วนกำไรจากรายได้ประจำในปี 63 เพิ่มเป็น 50%
อีกทั้งในปี 60 บริษัทวางแผนเพิมจำนวนสถานีเสาโครงค่ายโทรคมนาคมในปั้มน้ำมันอีก 150 ต้น จากปัจจุบันมีจำนวนเสาทั้งหมด 250 ต้นใน 250 สถานี
ล่าสุด บริษัทได้เข้าร่วมเป็น 1 ใน 6 ผู้ประกอบการภาคเอกชนในโครงการนำสายสื่อสารจากบนอากาศลงสู่ใต้ดิน โดยจะเริ่มดำเนินการในเฟสแรกซึ่งเป็นโครงการนำร่องระยะทาง 30 กิโลเมตร บนถนนพหลโยธินจากห้าแยกลาดพร้าว-สี่แยกปทุมวัน เพื่อทำให้กรุงเทพฯมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการราว 1 ปี หรือแล้วเสร็จภายในปลายปี 60
นางปรีญาภรณ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการแต่ละรายที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลาทั้งหมด 15 ปี โดยบริษัทคาดว่าหลังการนำสายสื่อสารจากบนอากาศลงสู่ใต้ดินแล้วเสร็จ บริษัทจะสามารถมีรายได้จากการให้บริการท่อและสายไฟเบอร์กับผู้ประกอบายอื่นๆที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งหากโครงการดังกล่าวสำเร็จไปได้ด้วยดี บริษัทคาดว่าจะมีโอกาสพัฒนาต่อในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป