นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,514-1,530 จุด และมีความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก การตอบโต้กันไปมาระหว่างจีนและสหรัฐฯ อันเกิดจากการแสดงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์กับจีนเรื่องการค้าและการทหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะต้นสัปดาห์ที่แล้วที่ออกมากล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องยึดถือนโยบายจีนเดียวที่ไต้หวันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของจีน ทางจีนจึงแสดงท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเพราะจีนถือว่านโยบายดังกล่าวนี้เป็นเรื่องอธิปไตยของจีน
จากนั้นพอมาวันพฤหัสบดี มีเรื่องเรือรบของจีนได้ยึดยานสำรวจใต้ทะเลไร้คนขับของราชนาวีสหรัฐฯ ในบริเวณทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วจากถ้อยแถลงของทั้งสองฝ่ายในวันเสาร์ที่ตรงกันว่าจีนกำลังจะคืนยานดังกล่าวให้แก่สหรัฐฯ ทั้งนี้ ประเมินว่า ความขัดแย้งน่าจะดำเนินอยู่ต่อไปตราบเท่าที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีมุมมองเกี่ยวกับจีนเช่นที่เป็นมาต่อไป
ด้านตลาดหุ้น Wall street ที่ได้ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไรหุ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นในปีหน้าด้วย ด้านตลาดหุ้นเอเชีย นักลงทุนมีความกังวลเรื่องเงินทุนจะไหลออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ตลาดในภูมิภาคปรับตัวลดลง และจะยังคงผันผวนต่อไปตลอดสัปดาห์นี้
ด้านกลยุทธ์การลงทุน มองว่าปัจจัยภายในประเทศยังคงหนุนให้ SET Index ปรับตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยการปรับเพิ่มงบกลางปี 2560 อีก 1.9 แสนล้านบาทเพื่อหนุนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจขึ้นอีก จากเดิมที่กระทรวงการคลังคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจ 3.3-3.4% สำหรับปี 2560 อาจจะสามารถเติบโตขึ้นได้เป็น 3.6-3.7% โดยหากภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มเข้ามาด้วยเศรษฐกิจไทยอาจโตได้ถึง 4.0%
ในสัปดาห์นี้ Trading Idea แนะนำซื้อหุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เป็นผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากความพยายามของรัฐบาลในการแก้ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยการเร่งเพิ่มระบบขนส่งมวลชน โดยคาดว่าบริษัทจะบรรลุข้อตกลง กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แล้วได้รับการอนุมัติให้เป็นผู้ได้รับสัมปทานการก่อสร้างระบบและการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างสถานีสายสีน้ำเงินบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเตาปูนให้สะดวกต่อผู้โดยสาร ซึ่งจะต้องสร้างให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการได้ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี แต่ส่วนที่เชื่อมต่อของสองสถานีดังกล่าวขั้นต้นจะเร่งทำให้เสร็จก่อนใน 6 เดือน
ผลการดำเนินงานของ BEM จะดีขึ้นอย่างโดดเด่นนับจากไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป จากการเปิดใช้บริการทางพิเศษศรีรัชฯ และ MRT สายสีม่วง ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 โดยคาดว่ากำไรปกติของ BEM เติบโตแข็งแกร่งถึง 129% ในปี 2559 และเติบโตเป็น 38% ในปี 2560 จึงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 10.10 บาท
ด้าน Technical รูปแบบราคา ของ BEM ยังอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นขาขึ้น จากการเกิดสัญญาณซื้อรายเดือน เพียงแต่ในระยะสั้นและระยะกลางยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน จากการเกิดทั้งสัญญาณขายรายวันและรายสัปดาห์