นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อาม่า มารีน (AMA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนใช้เงินที่ได้จากระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) มูลค่า 1,070 ล้านบาท โดยจะใช้งบลงทุนราว 250 ล้านบาทซื้อเรือ 2 ลำในช่วงไตรมาส 1/60 และใช้เงินอีก 50 ล้านบาท ซื้อรถขนส่ง 100 คัน ในระยะเวลา 2 ปี (60-61) จะส่งผลให้บริษัทฯมีเงินเหลืออยู่อีกราว 700 ล้านบาทที่จะพิจารณาการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านโลจิสติกส์
ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทฯสามารถเข้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ (mai) ได้แล้ว เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อความเชื่อถือของผู้ใช้บริการการขนส่ง ซึ่งบริษัทมีสัญญาแบบเที่ยวต่อเที่ยวที่สามารถปรับเปลี่ยนราคาการให้บริการได้ทันทีตามการปรับตัวขึ้นหรือลงของราคาน้ำมัน ส่งผลให้บริษัทฯสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 15-19% และอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 30% ได้เป็นระยะเวลามานานกว่า 10 ปี
"หลังจากที่เราจะทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว ภาพลักษณ์ ความหน้าเชื่อถือต่างๆ ก็ปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย และเราก็ได้เตรียมตัวที่จะขยายกองเรือ กองรถขนส่งเพิ่มขึ้น จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะมีผู้ใช้บริการเยอะเหมือนเดิม เพราะเราได้มีการเจรจากับลูกค้าหลายๆ รายรองรับไว้แล้ว และด้วยความเชื่อถือในความปลอดภัยของการขนส่งสินค้า ส่งผลให้ที่ผ่านมาอัตราการเช่าเรือสูงถึง 95% ซึ่งการให้บริการเป็นการทำสัญญาเที่ยวต่อเที่ยว ไม่ใช่เป็นการทำสัญญาระยะยาว ที่หลายคนมองว่าเป็นความเสี่ยง แต่เรามองว่าเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการเรื่องค่าบริการได้ทันตามราคาต้นทุนน้ำมัน"นายพิศาลกล่าว
นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.อาม่า มารีน (AMA) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความมั่นใจ และมีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกพรุ่งนี้ (22 ธันวาคม 59) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
AMA ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน หรือโรดโชว์จำนวน 4 จังหวัด ที่มีนักลงทุนสนใจฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก รวมถึงหลังจากการเปิดจองซื้อหุ้น IPO เมื่อวันที่ 8-9 และ 13-14 ธ.ค.59 นักลงทุนทั่วประเทศก็ได้ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีแผนในการขยายธุรกิจที่ชัดเจน
ที่สำคัญตัวเลขของการเติบโตของผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าเหลวทั้งทางรถ และทางเรือ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการขนส่งน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มทั้งในอินเดีย จีน เมียนมาร์ และเวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้น
"หลังจากกระบวนการต่างๆ ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ AMA จะเป็นหุ้น IPO อีกตัวหนึ่งที่มีความน่าสนใจ จากพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และมีจุดเด่นที่โอกาสในการขยายตัวในอนาคตที่สูงตามแผนการขยายกองเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี รวมถึงขยายกองรถบรรทุกน้ำมัน เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนให้ AMA มีความโดดเด่นและมีแนวโน้มในการเติบโตในอนาคต"นางศรัณยากล่าว
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ AMA กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายมีความเชื่อมั่นว่า AMA จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก AMA จะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 9.99 บาทได้ เพราะจากการเสนอขายหุ้นร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายทั้ง 5 ราย สามารถกระจายหุ้นไปยังนักลงทุนทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ มากกว่า 4,300 ราย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความต้องการจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนที่มากกว่าจำนวนที่เสนอขาย 108 ล้านหุ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่นักลงทุนที่พลาดโอกาสไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นในครั้งนี้ จะสามารถเข้าลงทุนหลังจาก AMA เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันแรกไปแล้ว