EPCO-W2 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.82 บาท มูลค่าซื้อขาย 37.67 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.70 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.87 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.68 บาท
ขณะที่หุ้น EPCO ปิดที่ 6.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 14.49 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.65 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 6.65 บาท และราคาลงต่ำสุด 6.50 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเบื้องต้น คาดว่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) ใช้ชื่อย่อว่า EPCO-W2 จะมี All-in Premium 44.6% เนื่องจากราคาใช้สิทธิของ EPCO-W2 ที่สูงกว่าราคาในกระดานของ EPCO โดย Out-of-The-Money อยู่ 26.11% และด้วยอายุของ EPCO-W2 ที่ค่อนข้างสั้นเพียง 1 ปีทำให้มองว่าโอกาสในการใช้สิทธิเกิดขึ้นได้ยากและมีปัจจัยกดดันจากเงินปันผล (เฉลี่ย 2-3%) ทำให้เหมาะสำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้น
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 6.60 บาท (21 ธ.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ EPCO-W2 ที่ 0.54 บาท พร้อมให้กรอบมุลค่า EPCO-W2 ไว้ที่ 0.46-0.63 บาท เมื่อราคาหุ้น EPCO เคลื่อนไหวในกรอบ 6.35-6.85 บาท โดยมี Volatilily 49% per year
EPCO-W2 จำนวนที่ออก 95.7 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ในอัตราส่วน 8 : 1 (ขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 27 ต.ค.2559) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 9 บาท, อายุ 1 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน พ.ค. และ พ.ย. (สามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 31 พ.ค. 2560 และครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 พ.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)
EPCO ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตสิ่งพิมพ์ที่ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ในลักษณะครบวงจรโดยให้บริการตั้งแต่วางแผนการผลิตจนกระทั่งเข้าเล่มเป็นสิ่งพิมพ์สำเร็จรูป และงานด้าน Packaging ในปัจจุบันบริษัทได้เริ่มแผนการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ