(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มเทรดน้อย,นักลงทุนชะลอเทรดหลังเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 26, 2016 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ และวอลุ่มเทรดคงจะน้อย เนื่องจากมองว่าปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติได้ชะลอลงหลังจากที่เข้าช่วงวันหยุดระยะยาวตามเทศกาลช่วงปลายปีแล้ว ดังนั้นตลาดฯจึงน่าจะมีแค่นักลงทุนในประเทศที่เทรดกันเอง และส่วนใหญ่ก็คงจะชะลอการลงทุนด้วย ส่วนหุ้นที่นักลงทุนจะเล่นก็คงจะเลือกเล่นเป็นรายตัวมากกว่า เนื่องจากขณะนี้ปัจจัยบวก-ลบของตลาดฯไม่ชัดเจน

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังน่าจะได้แรงหนุนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาช่วยประคองให้ดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,500 จุด ได้ ส่วนการทำ Window Dressing ในช่วงปลายปีนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะดัชนีฯได้ปรับขึ้นมาราว 17% แล้วนับแต่ต้นปี

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน พร้อมให้แนวรับ 1,505-1,502 จุด ส่วนแนวต้าน 1,513-1,515 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 ธ.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,933.81 จุด เพิ่มขึ้น 14.93 จุด (+0.07%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,462.69 จุด เพิ่มขึ้น 15.27 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,263.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.83 จุด (+0.13%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 33.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 14.57 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.43 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ตลาดหุ้นมาเลเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ธ.ค.59) 1,509.98 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด (+0.39%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 435.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 ธ.ค.59) ปิดที่ 53.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ธ.ค.59) ที่ 6.84 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.98 ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน ตลาดเงียบใกล้ช่วงหยุดยาว
  • คลังยอมรับปีหน้าแผนบริหารหนี้รัฐมีความท้าทายมากขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงด้านนโยบายการเงินต่างประเทศ แนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องและนโยบายประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐ สร้างความผันผวนการไหลเข้า-ออกเงินทุน ขณะที่ความต้องการเงินทุนภาครัฐยังมีสูงจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ มั่นใจบริหารต้นทุนการเงินอยู่ในระดับต่ำได้
  • สรรพากรมั่นใจแนวโน้มจัดเก็บภาษีในปี 60 น่าจะได้รับอานิสงส์จากการอัดฉีดใช้จ่ายการลงทุนภาครัฐและความคึกคักในการลงทุนที่มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยอมรับปัจจัยราคาน้ำมันที่ร่วงต่ำกว่าสมมติฐานกระทรวงการคลังยังเป็นแรงกดดันการจัดเก็บภาษี
  • ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2560-2562) ของ ธปท.ภายใต้สภาพแวดล้อมการเงินโลกในระยะต่อไปที่มีแนวโน้มความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และยากที่คาดการณ์มากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหลายด้าน จึงมองว่าควรเร่งพัฒนา 3 กลุ่มงานสำคัญ ได้แก่ 1. การรักษาเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน 2. พัฒนาระบบการเงิน และ 3. สร้างความเข้มแข็งขององค์กร
  • ทางหลวงชนบทจัดหนัก 4 พันโครงการปีหน้า ส่วนใหญ่เป็นงบซ่อมแซมถนน พร้อมพัฒนาถนนลูกรังเป็นถนนลาดยางรวมระยะทาง 800 กิโลเมตร ทยอยเซ็นสัญญาแล้ว 80% คาดลงนามได้ครบภายในมี.ค. 2560
  • ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และสถานีกลางบางซื่อว่า ในส่วนของสัญญา 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง) และสัญญา 2 (งานก่อสร้างทางรถไฟบางซื่อ-รังสิต) นั้น ขณะนี้พบว่า ล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด ซึ่งการรถไฟฯได้หารือร่วมกับผู้รับเหมาในการปรับเปลี่ยนแนวทางการก่อสร้างเพื่อให้ตัวโครงการสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2563
  • ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเครือ สหพัฒน์ เปิดเผยว่า กำลังซื้อผู้บริโภคในปี 2560 จะค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างไม่หวือหวา โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผลจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำในช่วงปลายปี 2559

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPF (เคทีบีฯ) "ซื้อ"เป้า 37 บาท ซื้อกิจการอาหารแช่แข็งในสหรัฐฯ สำเร็จ ช่วยหนุนยอดขายปีหน้าเติบโต เล็งวางแผนสร้าง synergy หนุนขยายตลาดได้ระยะยาว, ราคาสัตว์บกอ่อนตัวลงจากระดับสูงผิดปกติกดผลประกอบการระยะสั้น มองทั้งปียังเติบโตโดดเด่นจากกำไรธุรกิจหลักในช่วง 9M59 พร้อมปรับประมาณการขึ้นเล็กน้อยสะท้อนการเข้าซื้อกิจการ มองธุรกิจกุ้งยังเป็นพระเอกหลักหนุน CPF เติบโตในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
  • PTTEP (ไอร่า) เป้าปีหน้า 95 บาท ภายใต้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงราคาน้ำมันดิบดูไบ ล่าสุด อยู่ที่ 52.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วง 4Q/59 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 45-55 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนผลการดำเนินงานของ PTTEP ในช่วงปี 60 สามารถรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่ลดลงได้ เนื่องจากได้มีการทำ hedging ไว้แล้วจำนวน 30% ของการผลิตทั้งหมด ขณะที่ราคาก๊าซจะปรับลดลงมาต่ำสุดในช่วงประมาณ 1Q/60 จากการปรับสัญญาราคาขายก๊าซตามราคาน้ำมันดิบในช่วงเดือน ต.ค.59 และคาดปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2Q/60 เป็นต้นไป พร้อมคาดรายได้ในปี 60 เพิ่มขึ้น 8% อยู่ที่ 173,740 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 17,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% คาดเงินปันผล 2.63 บาท คิดเป็น Div.Yield ประมาณ 3.0%
  • ADVANC (เคจีไอฯ) "ซื้อ"เป้า 179 บาท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะโดดเด่นกว่าคู่แข่งในปี 2559-2561 และราคหุ้นปัจจุบันยังมี upside ถึง 24% จากราคาเป้าหมาย รวมถึงยังคาดหมายอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่จูงใจอยู่ราว 5.3% ในปี 2560 ทั้งนี้ ถึงแม้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นใน 4Q59 จากปัจจัยด้านฤดูกาล และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะถูกกดดันจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากำไรจะกลับมามีทิศทางดีขึ้นตั้งแต่ 2H60 เป็นต้นไป และจะเห็นการเติบโตได้ในปี 2561

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ