นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ยังขาดปัจจัยใหม่ ๆ การซื้อขายที่เบาบางลง จึงคาดว่าดัชนีฯจะจะมีความผันผวนสูงแต่แกว่งในกรอบแคบ ๆ เป็นผลมาจากการเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้น ๆ ของนักลงทุน ซึ่งคาดว่าจะมีความคึกคักในบางกลุ่มและหุ้นบางตัว ซึ่งจะมีแรงซื้อส่งท้ายปี โดยเฉพาะที่มาจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ขณะที่ตลาดหุ้นหลายแห่งหยุดทำการในวันนี้ และการซื้อขายทิ้งท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ไม่ได้มีความคึกคักมากเนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ดังนั้นปัจจัยที่สำคัญ ๆ มีค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะปัจจัยด้านเศรษฐกิจของต่างประเทศที่จะมีเรื่องรายงานประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ประชุมไปเมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และตัวเลขส่งออก เดือน พ.ย.ของไทย ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากที่ติดลบ 4.2% ในเดือน ต.ค. ด้านราคาน้ำมัน ตลาดยังคงมองทิศทางราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แต่การสูงขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงนี้ ยังมีข้อจำกัดจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
มองว่าตลาดหุ้นตลอดสัปดาห์นี้ จะแกว่งเพียงกรอบ 1,500-1,521 จุด การซื้อขายช่วงนี้ จึงควรเป็นการเก็งกำไรช่วงสั้น ๆ หรือทยอยเก็บหุ้นที่มีผลประกอบการปีหน้าที่ขยายตัวดี โดยประเมินว่า กลุ่มหุ้นที่จะมีแรงซื้อส่งท้ายปี จะเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า หุ้นที่เป็นเป้าหมายของกองทุนฯในประเทศ และหุ้นที่เก็งกำไรจากข่าวบวกเฉพาะตัว สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ KCE,BJC,BCH,SCC,UNIQ,CPF