นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯในปี 2560 ว่า บริษัทฯพร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในส่วนของ โซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลมให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างเต็มตัว หลังจากที่สัดส่วนรายได้ปี 2560 จะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนถึง 50% จากปัจุจบันอยู่ที่ 40% ขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้งและงานก่อสร้างยังคงขยายตัวไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2560 เติบโตไม่น้อยกว่า 20 -30% ขณะที่กำลังการผลิตตั้งเป้าไว้ที่ 500 เมกะวัตต์ เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 486 เมกะวัตต์ โดยปี 2559 ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไปแล้วทั้งสิ้น 171 เมกะวัตต์
“ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯในปี 2559 ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานทดแทนที่นอกจากจะเปรียบเสมือนเป็นฐานรากที่สำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ที่ทำให้ ก้าวเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าอย่างเต็มตัวแล้ว ยังถือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ซึ่งนับจากนี้กลุ่มบริษัทฯ จะยังคงหางานใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทฯให้เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อผลักดันให้กำลังการผลิตปี 2560 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 500 เมกะวัตต์" นางสาวโศภชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตภาพรวมธุรกิจของเครือ GUNKUL จะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานลมที่จ่ายไฟเข้าระบบได้ครบแล้ว ซึ่งบริษัทฯมีแผนยื่นประมูลงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตของธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น