นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ดัชนีฯมีแนวโน้มเดินหน้าต่อ การซื้อขายน่าจะยังคงเบาบาง เพราะเข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาว แต่จะมีแรงซื้อเข้ามาในตลาด หลังการกลับมาเปิดซื้อขายของตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น และเก็งกำไรหุ้นเฉพาะกลุ่ม ที่มีปัจจัยบวก ทั้งในเรื่องแนวโน้มผลประกอบการ และผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาท
การกลับมาเปิดทำการซื้อขายของตลาดหุ้นหลายแห่งที่ปิดทำการไปวานนี้อีกครั้ง จะทำให้การซื้อขายในตลาดต่างประเทศมีปริมาณที่สูงขึ้น ก่อนที่จะมีการหยุดยาวอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ตัวแปรสำคัญ ๆ ของตลาดยังคงมีน้อย เป็นผลจากการปิดทำการไปของตลาดหุ้นสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ราคาน้ำมัน เปิดทำการซื้อขายเช้านี้ สูงขึ้นจากวันก่อน จากแนวโน้มการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอนโอเปก ที่จะลดปริมาณการผลิตในตลาดลง ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งโลหะและสินค้าเกษตรในตลาดโลก ส่วนใหญ่อ่อนตัวลง น่าจะมาจากราคาปรับตัวขึ้นมามาก และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศ คงมี 2 เรื่อง คือ ตัวเลขส่งออก เดือน พ.ย.ที่ขยายตัว 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นทั้งสินค้าภาคการเกษตร (ข้าว มันสำปะหลัง อาหารแช่แข็ง) 12.7% และสินค้าในภาคอุตสาหกรรมเกือบทุกกลุ่ม 9.8% และโน้มแนวเดือนต่อ ๆไปที่ยังคงดีอยู่ เป็นปัจจัยบวกของตลาดหุ้นไทยโดยตรง ขณะที่ปัจจัยอีกตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก คือ ค่าเงินบาท ที่เช้านี้อยู่ที่ 35.9 บาท/ดอลลาร์แล้ว การอ่อนค่าของเงินบาทจะส่งผลดีต่อการส่งออกแต่อาจเพิ่มแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศให้มากขึ้นได้
"ด้วยน้ำหนักของปัจจัยบวกที่มากกว่าลบ ตลาดจึงมีแนวโน้มเดินหน้าต่อ แต่จะยังคงความผันผวนที่สูงจากการเก็งกำไรช่วงสั้น ๆ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางกว่าช่วงปกติ สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ KCE,BJC,SAWAD,FSMART,EGCO"นายมงคล กล่าว