นายวิชัย ถาวรวัฒนายงค์ ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระคืนหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) ให้กับ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มูลค่า 100 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทไม่สามารถเบิกเงินมาจ่ายให้ได้ เพราะกรรมการผู้มีอำนาจในการเซ็นเอกสารอนุมัติไม่ครบ ขาดเพียงนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ หลังจากที่ลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
"ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถเบิกเงินของบริษัทมาใช้เองได้ บริษัทก็มีแนวทางอื่นมาแก้ปัญหาเพื่อชำระคืนหนี้ตั๋ว B/E พร้อมค่าปรับให้กับบลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้อย่างแน่นอน"นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย ยอมรับว่า ขณะนี้บริษัทประสบปัญหาการบริหารงานภายใน จากการลาออกของนายสิทธิชัย เพราะนายสิทธิชัยยังนั่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทลูกของ IFEC อีกประมาณ 40 บริษัท แต่ไม่ได้เข้ามาดำเนินงานต่าง ๆ ภายในบริษัทลูกที่นั่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ส่งผลให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะการเซ็นเอกสารการเบิกจ่ายเงินต่างๆ
"ตอนนี้ IFEC เหมือนกับครอบครัวที่มีปัญหาภายในบ้าน งานต่างๆก็เดินหน้าไปไม่ได้หลังจากที่คุณสิทธิชัยลาออก แต่เขายังเป็นกรรมการในบริษัทลูกของ IFEC อีกประมาณ 40 บริษัท เขาก็ไม่ได้มาบริหารจัดการอะไรเลยตั้งแต่ลาออกจาก IFEC ซึ่งทำให้งานต่างๆไม่เดิน การเซ็นเอกสารอนุมัติต่างๆก็ทำไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เข้ามาทำงาน เลยทำให้งานทุกอย่างมันโหลดไป ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงคิดทำแบบนี้
ส่วนตัวผมผมไม่ได้อยากออกมาให้ข่าวเพื่อทำให้ราคาหุ้นตก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องดี แล้วผู้ถือหุ้นจะคิดยังไง ถ้าทำแบบนี้แล้วเงินผมที่ลงทุนไปมากมายมันก็ไม่ได้สร้างผลตอบแทนอะไรกลับมาเลย ตอนนี้ผมอยากให้ช่วยกันแก้ปัญหาภายในบ้านให้จบ เพราะผมต้องการให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในตัวบริษัท เพราะหุ้นในบริษัทมีนักลงทุนที่เขามั่นใจและคาดหวังผลตอบแทนที่เขาจะได้รับจากการลงทุนใน IFEC ถืออยู่ ส่วนงานต่างๆภายในบริษัทก็สามารถเดินหน้าไปต่อได้ ซึ่งตอนนี้มันหยุดชะงัก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องดี ตอนนี้ผมก็พยายามหาทางออกในการแก้ปัญหาภายในบ้านให้จบได้โดยเร็วอยู่"นายวิชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการพบความไม่ชอบมาพากลของการดำเนินธุรกิจขนมมาการองของโรงแรมดารา เทวี เชียงใหม่ จากการที่การสั่งซื้อขนมมาการองที่ต้องสั่งซื้อผ่านบริษัท ไลท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ทั้งการสั่งซื้อมาขายที่โรงแรมในเชียงใหม่ และสำนักงานใหญ่ของบริษัท คือ อาคาร เดอะไนน์ พระราม 9 ซึ่งได้มีการจ่ายส่วนต่างกำไรถึง 20% แทนที่โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ จะเป็นผู้ผลิตขนมมาการองขายเอง โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบขอกรรมการตรวจสอบของบริษัท และกรรมการอิสระจากภายนอกเข้ามารวบรวมหลักฐาน
สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการรายงานข้อมูลที่ส่งมาไม่ถึงตน (นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์) ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหาร ทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงโดยตรงหรือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท ไลท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะต้องถูกการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบด้วยเช่นกัน รวมถึงนายสิทธิชัยจะถูกดำเนินการตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับอนาคตของโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ปัจจุบันได้มีนักลงทุนต่างชาติในเอเชียเซ็นสัญญาตกลงในการเข้าลงทุนในโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่เป็นการส่วนตัวแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นการขายหุ้นหรือการขายสินทรัพย์ของโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ให้กับนักลงทุนต่างชาติดังกล่าว ถึงแม้ว่าโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ จะเปลี่ยนมือการบริหารไปเป็นของนักลงทุนต่างชาติ แต่โมเดลการดำเนินธุรกิจยังจะใช้แนวคิดเดิมที่บริษัทวางแผนไว้ ซึ่งเป็นโมเดลที่นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน
อย่างไรก็ตาม แผนงานที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ยังเกิดความล่าช้าอยู่จากปัญหาภายในของบริษัทที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้แผนงานต่างๆไม่สามารถลุล่วงไปได้ อีกทั้งยังทำให้นักลงทุนต่างชาติดังกล่าวเกิดความไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุน เพราะบริษัทยังไม่สามารถแก้ปัญหาภายในได้
"ที่เราตัดสินใจอาจจะต้องตัดของของๆเราบางอย่างขายออกไป โดยเฉพาะโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ที่เราจะต้องยอมตัดไป เพราะปัจจัยเป็นหนึ่งธุรกิจที่ถือว่าค่อนข้างถ่วงผลการดำเนินงานของ IFEC อย่างมาก กำไรที่ได้มาจากโรงแรมนี้ก็ไม่มากนัก แม้ว่าโรงแรมจะมีกำไรแล้ว แต่การดำเนินการต่างๆของโรงแรมก็ทำไม่ได้อย่างที่เราคิดไว้ ซึ่งตอนนี้มีนักลงทุนต่างชาติในเอเชียที่สนใจลงทุน ได้เซ็น MOU กับผมส่วนตัวไว้แล้ว เขาจะเข้ามาลงทุนในโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างดูอยู่ว่าจะเป็นการขายหุ้นของโรงแรมให้หรือเป็นการขายสินทรัพย์ให้นักลงทุนดังกล่าว
เขาก็จะใช้โมเดลของผมในการดำเนินการต่างๆโรงแรม เพราะเขามีความสนใจในโมเดลที่ผมคิด แต่พอมีปัญหาภายในบ้านเกิดขึ้นจากข่าวที่ออกมาก็ทำให้เขาไม่เชื่อมั่นในการลงทุน เขาก็มีถามเข้ามาแล้วผมก็อธิบายไปแล้ว ซึ่งปัยหาภายในบ้านที่เกิดขึ้นทำให้งานต่างๆหยุดไปก่อน ผมก็พยายามที่จะหาทางแก้ปัญหาภายในบ้านให้จบได้ด้วยดี เพราะยังไงบริษัทก็ต้องเดินหน้าไปต่อ และผมก็ไม่อยากตัดชิ้นเนื้ออะไรของบริษัทขายออกไปอีกแล้ว อยากให้มาจากผลการดำเนินงานของธุรกิจในบริษัทจริงๆ"นายวิชัย กล่าว