ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,517.08 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 26,442.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,519.66 จุด ส่วนดัชนีทำจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,513.98 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 506 หลักทรัพย์ ลดลง 581 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 422 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ และมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี และไม่ได้มีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามากระทบ แม้ว่า sentiment ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นเชิงบวก
ด้านตลาดหุ้นอื่นในต่างประเทศที่เปิดทำการในวันนี้ ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดและการเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในแดนบวก ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบคละกัน โดยจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ความชัดเจนของปัจจัยต่าง ๆ ออกมาแล้วนั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นในช่วงนี้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าตลาดอาจจะมีความผันผวนได้บ้าง แต่การซื้อขายมีโอกาสกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะตลาดหุ้นในหลาย ๆ ประเทศเริ่มกลับมาเปิดทำการมากขึ้น ซึ่งแนะนำนักลงทุนหากตลาดปรับตัวขึ้นให้หาจังหวะในการขายทำกำไรออกมา และหากดัชนีปรับตัวลงก็พิจาณาความเหมาะสมในการถือ หรือการ cut loss ออกมาบ้าง
พร้อมให้แนวต้าน 1,520-1,530 จุด แนวรับ 1,500-1,510 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PERM มูลค่าการซื้อขาย 896.64 ล้านบาท ปิดที่ 4.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท
SRICHA มูลค่าการซื้อขาย 893.41 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 821.99 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 642.05 ล้านบาท ปิดที่ 18.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 623.14 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท