(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขาขึ้น ขานรับราคาน้ำมันดีดตัว,เม็ดเงิน LTF-RMF หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 28, 2016 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway up คาดว่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และยังได้อานิสงส์จากเม็ดเงินของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ด้วยหลังจากที่เมื่อวานนี้เริ่มเห็นแรงซื้อจากกองทุนในประเทศเข้ามา

อย่างไรก็ดี วอลุ่มเทรดคงจะบาง และนักลงทุนก็คงจะเล่นเทรดดิ้งกันได้ โดยยังแนะนำหุ้นพื้นฐานดี และมีปันผล ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,515-1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,527 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ธ.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,945.04 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด (+0.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,487.44 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด (+0.45%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,268.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด (+0.22%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 10.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 0.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 12.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.63 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 20.31 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.08 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.21 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ธ.ค.59) 1,517.08 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด (+0.12%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 658.89 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ธ.ค.59) ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ธ.ค.59) ที่ 7.01 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.02/03 แนวโน้มทรงตัว มองกรอบ 35.92-36.05 คาดวอลุ่มบางใกล้หยุดสิ้นปี
  • ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ จาก 1,223 ตัวอย่างทั่วประเทศ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 1.29 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.4% มีมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมา แต่ถือว่าขยายตัวต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2556
  • ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา หัวหน้า คสช.ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้เชื่อมส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน ระยะทาง 1 กิโลเมตร ให้เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ให้แล้วเสร็จและสามารถใช้งานได้ภายในกลางปีถึงปลายปี 2560
  • รมว.คลัง เผยปีหน้าคลังจะผลักดันร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้กฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2561
  • กระทรวงคมนาคมได้เตรียมแผนรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2559-4 ม.ค. 2560 โดยจัดแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนด้วยการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าฟรี 4 เส้นทาง ได้แก่ 1.รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (เอ็มอาร์ที) 2.รถไฟฟ้าและสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 3.รถไฟฟ้าบีทีเอส และ 4.รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมทั้งสิ้น 1 วัน เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 31 ธ.ค. 2559 ไปจนถึงเวลา 12.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค. 2560

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 12 บาท ในที่สุดการเจรจากับรฟม.ก็ได้ข้อยุติเรื่องงานเดินรถ 1 สถานีเชื่อมต่อสถานีเตาปูน-บางซื่อแล้ววานนี้ โดยว่าจ้าง BEM เข้ามาเดินรถ ได้ค่าจ้างปีละ 52 ล้านบาท (ไม่รับผิดชอบค่าโดยสาร) รฟม.จะนำเรื่องเข้าครม. 11 ม.ค. คาดเปิดบริการได้ ส.ค.-ก.ย. 2560 ส่วนสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่ BEM ได้สัมปทานเดินรถ 33 ปีนั้น จะนำเข้าครม.ภายใน 1Q60 จะทยอยเปิดให้บริการบางส่วนปลายปี 2562 และเดินได้ทั้งเส้นทางปี 2563 ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 86.72%
  • PTTEP (กสิกรไทย) "ซื้อ"ปรับเป้าเพิ่มเป็น 105 บาท สะท้อนถึงการปรับเพิ่มสมมติฐานปริมาณการขายระยะยาวขึ้น 9% จากโอกาสที่จะมีการต่อสัญญาสัมปทานแหล่งบงกช รวมถึงโอกาสที่จะมีการปรับลดงบลงทุน (CAPEX) ลง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ จากความล่าช้าของโครงการโมซัมบิก ทั้งนี้ ชอบปัจจัยพื้นฐานของ PTTEP เนื่องจาก 1) กลุ่ม OPEC และ non-OPEC ได้บรรลุข้อตกลงในการปรับลดปริมาณการผลิตลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งช่วยฟื้นฟูภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานต้นน้ำให้ดีขึ้น 2) ศักยภาพการเติบโตด้านกำไรที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สำหรับปี 2560-61 ที่ 44% 3) คุณภาพกำไรที่ปรับดีขึ้นจากประเด็นภาษีรอการตัดบัญชีที่มีความผันผวนลดลง และ 4) upside จากโอกาสด้านข้อตกลงการควบรวมกิจการ (M&A)
  • TU (ยูโอบี เคย์เฮียน) กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต ความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนที่เป็นโภคภัณฑ์ต่ำกว่าเนื้อสัตว์บก และไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไข้หวัดนกในยุโรปและเอเชีย มีโอกาสเป็นเป้าหมาย Window dressing
  • EASTW (ยูโอบี เคย์เฮียน) หุ้นสาธารณูปโภคที่มีกำไรมั่นคง ซื้อขายที่ PER 14x และให้ปันผล 4% ขณะที่คาดกำไร 2560 เติบโตจากการปรับเพิ่มค่าน้ำตามเงินเฟ้อ (ไม่ได้ขึ้นมา 2 ปี) ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปเมื่อ พ.ค.58 และเริ่มเข้าสู่ขาขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ