โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) จากปริมาณยอดขายรอโอนที่ดิน (Backlog) ที่จะเพิ่มขึ้น รับผลบวกจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐ ที่จะช่วยหนุนการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ตลอดจนการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นในปี 60 ก็จะส่งผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคตด้วย
ส่วนระยะสั้นแม้ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ AMATA จะทำยอดขายที่ดินได้เพียง 357 ไร่ แต่ผู้บริหารยังยืนยันว่าทั้งปี 59 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1,000 ไร่ โดยมีลูกค้ารายใหญ่จำนวน 400-500 ไร่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มกลุ่มยานยนต์ และอาหาร ด้านกำไรช่วงไตรมาส 4/59 คาดว่าจะเติบโตได้ดีทั้งในช่วงเดียวกันของปีก่อน และงวดไตรมาสก่อน จากการรับรู้รายได้ราว 35-40% ของ Backlog ที่มีอยู่ 2.4 พันล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/59
หุ้น AMATA พักเที่ยงอยู่ที่ 11.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.28%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 18.00 กสิกรไทย ซื้อ 15.00 ยูโอบี เคย์เฮียนฯ ซื้อ 13.00 ทิสโก้ ซื้อ 17.20 คันทรี่ กรุ๊ป ซื้อเก็งกำไร 15.00 ซีไอเอ็มบีฯ ถือ 11.90 นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ของ AMATA ในไตรมาส 4/59 จะอยู่ในระดับที่ดี ตามการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ ขณะที่กำไรในปี 60 ยังมีโอกาสเติบโตราว 12% จากปีนี้ ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ก็จะส่งผลดีต่อภาคนิคมอุตสาหกรรมด้วย รวมถึงยังได้รับผลบวกจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ AMATA ด้วย นอกจากนี้การที่กลุ่ม AMATA มีการลงทุนในเวียดนามผ่านการถือหุ้นราว 73% ในบมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV) ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงาน เนื่องจากเวียดนามมีเศรษฐกิจที่เติบโตได้ค่อนข้างดี "ปีหน้าถ้าไทยมีความคืบหน้าการลงทุน โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกก็จะเป็นผลดี ภาพรวมรถยนต์ก็ฟื้นตัวดี โครงการรถยนต์คันแรกก็จะหมดภาระ และยังมีโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ด้วย ดูจากประมาณการกำไรปี 60 คาดว่าจะเติบโตได้ราว 12%"นายอภิชาติ กล่าว บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ด้วยว่า AMATA มี Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3/59 ที่ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะโอน 40% ภายในสิ้นปี และคาดว่างานในมือจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาท จากยอดจองที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้คิดเป็น 36% จากประมาณการทั้งปี และรายได้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/59 ซึ่ง AMATA จะต้องมีการขาย และรับรู้รายได้เพิ่มเพื่อให้ได้ตามเป้า นอกจากนี้การที่รัฐบาลมีโครงการ EEC จะเป็นปัจจัยที่หนุนการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โดยในระยะแรกของการลงทุนจะเน้นไปที่ถนนและรถไฟความเร็วสูง และการพัฒนาระบบขนส่งไปยังที่ดินของ AMATA ขณะที่รัฐบาลยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเริ่มในปี 60 แม้อาจล่าช้าเล็กน้อยแต่ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในปีถัดไปด้วย บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผู้บริหาร AMATA ยืนยันเป้ายอดขายที่ดินปี 59 ที่ระดับ 1,000 ไร่ แม้ยอดขาย 9 เดือนแรกของปีจะทำได้เพียง 357 ไร่ โดยลูกค้ารายใหญ่จำนวน 400-500 ไร่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ นอกจากนี้แม้ AMATA จะประเมินการแข่งขันในปี 60 จะมีอยู่สูง แต่การเกิดขึ้นของ EEC จะทำให้การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ AMATA ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมในไทยทั้งหมดอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะผลักดันให้ทิศทางยอดขายที่ดินดีขึ้น ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/59 ของ AMATA จะเติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน จากแผนการรับรู้รายได้ 35-40% ของ Backlog สิ้นไตรมาส 3/59 ที่มีมูลค่า 2.4 พันล้านบาท ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่า AMATA มีผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจากการที่มียอดขายและโอนที่ดินอยู่ในระดับที่ต่ำ อย่างไรก็ตามคาดว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงปี 59 และผลประกอบการทีอ่อนแอได้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 60 และยังมีปัจจัยบวกระยะยาวจากการลงทุนในเวียดนามมาสนับสนุน บทวิเคราะห์บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการของ AMATA ในช่วงไตรมาส 4/59 จะออกมาดี เนื่องจากจะเป็นไตรมาสที่มีการโอนที่ดินมากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงปกติของธุรกิจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามภาพรวมการขายที่ดินในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ AMATA ทำได้ทั้งสิ้น 357 ไร่ ยังต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ระดับ 1,000 ไร่ค่อนข้างมาก ทำให้คาดว่าทั้งปีนี้ AMATA น่าจะขายที่ดินได้เพียงใกล้เคียงกับปีก่อนคือ 617 ไร่เท่านั้น ดังนั้น จึงได้ปรับลดเป้าการโอนที่ดินในปีนี้เหลือ 450 ไร่จากเดิมคาดไว้ระดับ 600 ไร่ และปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 59 ลงเหลือ 697 ล้านบาท ลดลง 43% จากปีก่อน แต่ในปี 60 ประเมินว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 17% มาที่ระดับ 812 ล้านบาท