นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.กล่าวว่า ตามที่ ทอท.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ระยะที่ 1 (ปีงบประมาณ 2553 – 2557) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี โดยได้เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2559 และขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 นั้น ปัจจุบันการดำเนินการยังไม่เสร็จเรียบร้อย และในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการ ทภก.จำนวนมาก ทำให้เกิดความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสาร ดังนั้น ทอท.จึงได้มีการดำเนินการปรับปรุง แก้ไข และบริหารจัดการการให้บริการในช่วงดังกล่าวทั้งอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทภก.เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ทอท.กล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการการให้บริการภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก. เพื่อลดความคับคั่งภายในอาคาร ทภก.ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนมาตรการการรักษาความปลอดภัยสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) มาเป็นแบบ Terminal screening ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้โดยสารที่รอทำการเอ็กซเรย์สัมภาระบริเวณหน้าประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่ง ทภก.ได้จัดเจ้าหน้าที่จากโครงการ “HKT LOVE U, HKT TROUBLE SHOOTING และ HAPPY TO HELP" เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้ใช้บริการได้รับทราบ รวมทั้งได้ดำเนินการติดตั้งป้ายบอกเส้นทางเพื่อประชาสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ที่มาใช้บริการ ให้ทราบถึงช่องทางการเข้าสู่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.
ในส่วนของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงอาคาร ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการให้บริการ ทภก.จึงได้เพิ่มช่องทาง เข้าอาคารผู้โดยสาร เป็น 2 ช่องทาง และขยายประตูทางเข้า ประตูทางออก บริเวณชานชาลาขาออก อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ให้มีความกว้างเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความสะดวกและลดความคับคั่งของผู้โดยสารบริเวณประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสาร รวมทั้งยังได้จัดช่องทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการด้วย
นางมนฤดี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการดำเนินการเพื่อลดความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสารแล้ว ทภก.ยังได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ขาออกภายในประเทศ โดยติดตั้งเต็นท์ผ้าใบ เพื่ออำนวยความสะดวกบริเวณจุดรับ-ส่ง ผู้โดยสาร และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ขาเข้า ภายในประเทศ โดยติดตั้งเครื่องปรับอากาศ บริเวณแนวทางเดินผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ และรื้อถอนห้อง คสช. ห้องพยาบาล และห้องไปรษณีย์ ให้เป็นพื้นที่ Buffer Zone จุดรอรับผู้โดยสาร ตัวแทนโรงแรมและมัคคุเทศก์
รวมทั้งติดตั้งเต็นท์ผ้าใบ เพื่ออำนวยความสะดวก บริเวณจุดรับ-ส่ง ผู้โดยสาร และปรับเปลี่ยนเส้นทางการเข้าสู่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ บริเวณทางเชื่อมจากอาคารจอดรถ 5 ชั้นที่เชื่อมสู่บริเวณสำนักงานสายการบินชั้น 2 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ให้ประตูทางทิศเหนือใช้สำหรับเป็นทางออก ประตูทางทิศใต้ใช้สำหรับเป็นทางเข้าเพียงอย่างเดียว และปรับทิศทางบันไดเลื่อนบริเวณชั้นลอยขาเข้าอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยกำหนดให้บันไดเลื่อนทางทิศเหนือสำหรับลง และบันไดเลื่อนทางทิศใต้สำหรับขึ้น นอกจากนี้ ยังจัดรถ Airport Shuttle Bus รับ – ส่ง ภายในท่าอากาศยาน จาก ประตูทางเข้าหมายเลข 3 ชั้น 3 ขาออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ มายัง ชั้น 1 ขาออก อาคารผู้โดยสารภายประเทศ โดยให้บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง และรถตู้เวียนรับ-ส่ง ภายในท่าอากาศยาน จากอาคารจอดรถ 5 ชั้น มายังอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งให้บริการทุก 10 นาที
ด้านการจราจร ทภก.ได้ปรับปรุงเส้นทางจราจรเข้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยแบ่งช่องทางจราจรเป็น 3 ช่องทางคือ เส้นทางผู้โดยสารขาเข้า เส้นทางผู้โดยสารขาออก เส้นทางแท็กซี่ลีมูซีน เพื่อลดความหนาแน่นบริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ พร้อมติดตั้งป้ายบอกระยะทางก่อนเข้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศด้วย
นายนิตินัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก ประกอบกับ ทอท.อยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยาน อาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกสบาย ทอท.จึงขออภัยในความไม่สะดวก และขอแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายัง ทภก.ล่วงหน้า 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบินและขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการจำกัดของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำขึ้นเครื่องอย่างเคร่งครัด เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการผ่านขั้นตอนการตรวจค้น