นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บลจ.วรรณ ประเมินตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในลักษณะ Sideway Up จาก Sentiment เชิงบวกจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับความคาดหวังเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ เพื่อเข้ามาสนับสนุนตลาด โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาหลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มประกาศทีมบริหารและนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมา รวมทั้งแรงหนุนจากราคาน้ำมันยังคงทรงตัวได้และเริ่มเข้าสู่การปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายใหญ่ในปี 60 ทำให้มองว่า Downside Risk สำหรับการปรับลดลงของราคาน้ำมันเริ่มจำกัดมากขึ้น โดยบลจ.วรรณมองกรอบของราคาน้ำมันปีนี้ที่ระดับ 55-65 เหรียญดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจโลกเดือน ธ.ค.59 ยังคงฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐอเมริกา ยูโรโซนและจีน เป็นหลัก อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องและนักลงทุนส่วนใหญ่ตอบรับกับการบริหารจัดการและนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดีคนใหม่ทำให้มองว่ายังมีโอกาสที่กระแสเงินทุนยังมีโอกาสไหลจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเข้าสู่ประเทศพัฒนาแล้ว
สำหรับปัจจัยตลาดประเทศในสัปดาห์นี้นักลงทุนต้องติดตาม รายงานการประชุม FOMC สำหรับการประชุมเดือน ธ.ค. 59 ในวันที่ 4 ม.ค. 60 และตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐอเมริกาเดือน ธ.ค. 59 ในวันที่ 6 ม.ค. 60 ซึ่งจะรายงานตัวเลขมีทิศทางบวกต่อเนื่อง จะเป็นการย้ำความเชื่อมั่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ดัชนีมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ในกรอบภายใต้กรอบ 1,520-1,565 จุด ตาม Sentiment เชิงบวกของสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐส่งผลให้เศรษฐกิจไทยช่วงปลายปีมีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่น ซึ่งส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/59 ให้มีโอกาสปรับประมาณการเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องติดตามแรงขาย LTF/RMF ที่ครบกำหนดการถือครอง 5 ปีปฏิทิน มูลค่าประมาณ 45,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นปกติของธรรมชาติการลงทุนในช่วงต้นปี การเลือกตั้งของไทยอาจล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ และความผันผวนของกระแสเงินทุนต่างชาติหลังประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นรวมถึงความเป็นไปได้ของการปรับลดปริมาณการผลิตของน้ำมันในทางปฏิบัติหลังผู้ผลิต OPEC และ Non-OPEC มีการตกลงในการลดกำลังการผลิตในปี 60
นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนหลังดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นมาใกล้แตะระดับ 1,550 จุด ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรและอาจมีความเสี่ยงของการไถ่ถอนกองทุนเปิด LTF ที่ครบกำหนด ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาว บลจ.วรรณยังมีมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในปี 60 โดยมองว่า หากดัชนีฯ มีการย่อตัวลงยังเป็นจังหวะที่ทยอยสะสมได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4/59 ที่ดี