นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า รายงานประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่เผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมา ความเห็นคณะกรรมการก็เป็นไปตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ กล่าวคือ นโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่อาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น เป็นตัวเร่งให้ Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย ผลที่เห็นคือตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าต่อ แต่ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นในคืนที่ผ่านมาแตะระดับ 53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น จึงยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
สำหรับตลาดหุ้นไทย ตัวแปรสำคัญคือ เงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) จากนักลงทุนต่างประเทศและสถาบันในประเทศที่ซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศซื้อติดต่อกันทั้ง 3 วัน รวมทั้งมีการเปิดสถานะ long ใน Set50 Futures ด้วย ทำให้วันนี้ หุ้นใหญ่ในกลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ,กลุ่ม Domestic Play และกลุ่มที่เป็น Laggard มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อ และจะเป็นตัวชี้ทิศทางตลาดหุ้นไทย ทำให้เรามองว่า ดัชนีฯ วันนี้ มีแนวโน้มที่จะบวก แต่จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเข้ามาเป็นระยะๆ
"กลยุทธ์การลงทุนนั้น เช่นเดียวกับวันก่อน ที่เราเห็นว่าเป็นจังหวะที่นักลงทุนจะกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง โดยความคึกคักของหุ้นในวันนี้ จะไปอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่มากกว่าหุ้นที่มีขนาดเล็ก ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น PTTEP , SPRC , KCE , SAPPE , BBL , THAI , PCSGH , TYCN มองกรอบดัชนีวันที่ 1,558-1,574 จุด"นายมงคลกล่าว