นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBS) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ มีแนวโน้มขึ้นต่อ แต่จะผันผวนบ้างจากแรงขายทำกำไรและความไม่แน่นอนของตัวแปรในต่างประเทศ (ค่าเงินดอลลาร์–ค่าเงินหยวน) จากตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่เริ่มชะลอเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ และแนวโน้มดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์ จึงคาดว่าจะทำให้แรงซื้อเบาลงในวันนี้ ขณะที่แรงขายทำกำไรช่วงสั้นจะเพิ่มมากขึ้นในวันนี้ ดัชนีฯจึงน่าจะผันผวนกว่าเมื่อวาน แต่เงินทุนจากนักลงทุนต่างประเทศที่ยังเข้ามาในตลาดหุ้นอยู่ น่าจะทำให้ดัชนีฯ น่าจะเกาะในแดนบวกได้เกือบตลอดทั้งวัน มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,560-1,579 จุด
จากรายงานตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯออกมาดี คือ ลดลง 28,000 ราย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นชะลอการขึ้นมาตั้งแต่เห็นรายงานประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง ส่วนหนึ่งมาจากรอดูตัวเลขจ้างงาน ที่จะรายงานในคืนนี้ ขณะที่ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 6.8885 หยวน/ดอลลาร์ จากระดับที่อ่อนค่ามากที่สุดที่ 6.96 หยวนเมื่อต้นสัปดาห์ ขณะที่ดัชนีล่วงหน้าของตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้น 2% เช้านี้ เป็นปัจจัยที่น่าจัยตามองหลังจีน เริ่มออกโรงขู่สหรัฐฯหากมีการใช้มาตรการการค้ากับประเทศจีน
ส่วนราคาน้ำมันดิบยังคงเดินหน้าต่อล่าสุดอยู่ที่ 53.7 ดอลลาร์/บาร์เรล ข่าวเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน คือประเทศซาอุดิอารเบีย เป็นประเทศที่ 3 ของกลุ่ม OPEC ที่ออกมาประกาศลดการผลิตน้ำมันเดือน ม.ค.ลง 4.86 แสนบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 10.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งราคาน้ำมันได้ผลบวกจากเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าลง เราประเมินว่าหุ้นกลุ่มน้ำมัน (ผู้ผลิตน้ำมัน) น่าจะเป็นตัวช่วยของตลาดในวันนี้
"หุ้นที่ให้ความสนใจจะเป็นหุ้นตัวหลักๆ ที่นักลงทุนต่างประเทศเข้าซื้อ และหุ้นที่เป็น Laggard คือหุ้นใหญ่และดี ที่ราคาขึ้นมาไม่มาก ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เราแนะนำให้ทยอยขายทำกำไร ในตัวที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อิงกับรายได้ของตัวเองเริ่มปรับตัวลง ยกเว้นเหล็กและน้ำมัน ที่ระยะสั้นยังมีแนวโน้มดีอยู่ ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ PTTEP,KBANK,SCC,FSMART,THAI,GFPT,SAPPE"นายมงคลกล่าว