หุ้น BEM ราคาวิ่งขึ้น 2.00% มาอยู่ที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,104.91 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.37 น. โดยเปิดตลาดที่ 7.55 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 7.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 7.50 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ให้ราคาเป้าหมาย 8.6 บาทจากประเด็นข่าวคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เห็นชอบให้ รฟม.ใช้วิธีพิเศษในการว่าจ้าง BEM เดินรถไฟฟ้า 1 สถานีช่วงเตาปูน-บางซื่อ เชื่อมโยงสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน เนื่องจากต้องใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าและศูนย์ควบคุมการเดินรถของรถไฟฟ้าซึ่งเปิดเดินรถอยู่แล้ว โดยลดราคากลางติดตั้งระบบเดินรถ 1 สถานีลงมาอยู่ที่ 678 ล้านบาทจากเดิม 693 ล้านบาท และค่าจ้างเดินรถให้ BEM 52 ล้านบาทต่อปี ซึ่งคาดจะลงนามสัญญาว่าจ้างกับ BEM ได้ในต้นเดือนมีนาคมนี้
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ได้ข้อสรุปแล้ว เมื่อวันที่ 4 มกราคม เสนอผลการเจรา ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และเสนอร่างสัญญาให้อัยการพิจารณาแล้ว และเสนอเรื่องเข้าไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่ากระทรวงจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาอนุมัติภายใน 90 วันหลังจากนี้
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.ทิสโก้ มีมุมมองที่ดีจากความชัดเจนที่มากขึ้นสำหรับทั้งสองเส้นทางที่ค้างคามานาน สำหรับสายสีม่วงที่จะเปิดเดินรถ 1 สถานีได้ในเดือนสิงหาคมนี้เป็นไปตามที่บริษัทและทิสโก้คาดการณ์ไว้ และน่าเป็นไปได้ตามแผนการเนื่องจากระบบโยธาได้ดำเนินการเสร็จแล้ว เหลือแค่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ระบบการเดินรถ และทดลองการเดินรถ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะดำเนินการ
สำหรับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ยังไม่มีการเปิดเผยถึงเงื่อนไขที่มีการเจรจาในแง่ของการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานสำหรับสายสีน้ำเงินเดิมและสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่มีความเป็นไปได้ที่จะสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2592 และการจัดเก็บค่าแรกเข้า ซึ่งทาง รฟม. เสนอให้มีการเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว 16 บาท และค่าโดยสารสำหรับทั้งโครงข่าย 16-42 บาท ปรับขึ้นสถานีละ 2 บาท โดยก่อนหน้านี้ทาง BEM มีการขอค่าชดเชยจากการไม่มีการเก็บค่าแรกเข้าปีละ 100 ล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากการไม่จัดเก็บค่าแรกเข้าจะกระทบต่อรายได้ของ BEM โดยทางบริษัทคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการรายสถานีได้ในปลายปี 2562 และเต็มรูปแบบในปี 2563
อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการปรับประมาณการ เพื่อสะท้อนเงื่อนไขของสัมปทานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ปัจจัยเสี่ยงมาจาก 1) จำนวนผู้โดยสาร/รถใช้ทางด่วนที่น้อยกว่าคาด 2) การลงทุนเส้นทางใหม่ของรัฐบาลที่ช้ากว่าคาด