นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสท.วันนี้ได้มีการพิจารณาเบื้องต้น กรณีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในเครือบริษัท จีเอ็มเอ็ม วัน ทีวี จำกัด ที่รับใบอนุญาตช่องวัน HD หมวดหมู่ความคมชัดสูง โดยขายให้กับบริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด ที่มีนางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ทั้งนี้ บอร์ด กสท.มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.รวบรวมข้อมูลมาเพิ่มเติม รวมถึงให้เชิญทั้ง 2 บริษัทเข้าชี้แจงถึงสัดส่วนการถือหุ้น และแผนดำเนินกิจการในอนาคต เพื่อพิจารณาว่าจะมีแนวโน้มเกี่ยวโยงไปถึงการครอบงำกิจการกันหรือไม่ คาดว่าจะเชิญบริษัทดังกล่าวมาชี้แจงได้ภายในเดือน ม.ค.นี้ และจะเร่งสรุปผลให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะต้องรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศึกษากฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณา ตอนนี้จึงยังสรุปไม่ได้ว่าการระดมทุนและเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มปราสาททองโอสถผิดเงื่อนไขหรือไม่
อนึ่ง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 59 บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน บริษัท เดอะวัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และบริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด ขณะที่ บริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ บริษัท สินสกล จำกัด ที่ถือหุ้นในบริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้รับใบอนุญาตช่องดิจิตอล PPTV HD หมวดหมู่ความคมชัดสูงเช่นกัน
ดังนั้น การเข้าถือหุ้นของบริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด จะส่งผลให้ช่อง ONE และ PPTV มีบุคคลผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน จึงต้องพิจารณาข้อกฎหมายและประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเชิงการกำกับดูแลการแข่งขัน การป้องกันการครอบงำระหว่างผู้รับใบอนุญาตให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล (ประกาศหลักเกณฑ์การประมูล) ความสัมพันธ์ในเชิงโครงสร้างการถือหุ้น รวมทั้งเทียบเคียงมติ กสท. ที่เกี่ยวข้อง
นายภักดี กล่าวว่า ในวันนี้ ที่ประชุม กสท.ยังมีมติให้สำนักงานส่งหนังสือเชิญผู้บริหารช่องวอยซ์ทีวีมาชี้แจงในสัปดาห์หน้า กรณีการออกอากาศรายการ เวค อัพ นิวส์ (Wake Up News) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ที่มีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็น “กรธ.เล็งเปิดร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง" และ “เพื่อไทยชี้ยุทธศาสตร์ฯ 20 ปี กับดักประเทศ" ซึ่งมีเนื้อหาที่อาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 ,ฉบับที่ 103/2557 และขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงที่ทำกับสำนักงาน กสทช.