บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส ขอชี้แจงกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะประชุมเพื่อพิจารณาคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย ตามมติกทค.เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ว่า บริษัทฯ น้อมรับมติกทค.และจะปฏิบัติตามอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่บริษัทฯ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาในที่ประชุมกทค.ดังต่อไปนี้
1.การคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย บนคลื่นความถี่ 2100 MHz ย่าน 1800 MHz และ 900 MHz บริษัทฯ ประเมินว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 70-80 ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะบริษัทฯ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องยกเลิกการส่งเสริมการขายที่เป็นแพคเกจและโปรโมชั่นเหมาจ่ายในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำอัตราค่าบริการตามอัตราที่กสทช.กำหนดมาใช้ในการคำนวณ ได้แก่ คลื่น 2100 MHz หรือ 3จี คิดค่าบริการนาทีละ 82 สตางค์ จะหารออกมาเป็นวินาทีละ 1.37 สตางค์ คลื่น1800 MHz 900 MHz หรือคลื่น 4 จี กสทช.กำหนดให้คิดต่ำกว่า นาทีละ 69 สตางค์ หรือสูงสุดได้ไม่เกินนาทีละ 68 สตางค์ บริษัทฯ นำมาหารเฉลี่ยแล้วตกวินาทีละ 1.13 สตางค์ การคิดอัตราค่าบริการเป็นวินาที เพียงทางเดียวเช่นนี้ บริษัทฯ เชื่อว่ามีผลกระทบต่อผู้บริโภคที่เลือกแพคเกจหรือโปรโมชั่น ในราคาเหมาจ่าย เพราะยิ่งโทรนานเท่าไหร่ ผู้บริโภคจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
2. บริษัทฯ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดประชุมหารือกลุ่มย่อย ในเรื่องแนวทางการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งคลื่น 4 จี และคลื่น 3 จี ซึ่งสำนักงาน กสทช.จัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 โดยบริษัทฯ ยืนยันว่าแนวทางเหมาะสมที่สุด คือ คิดอัตราค่าบริการโทรตามจริงเป็นวินาทีและการคิดเป็นเหมาจ่าย ผู้บริโภคได้เลือกใช้ตามความจำเป็น ถ้าผู้บริโภคต้องการใช้บริการที่คิดอัตราค่าโทรตามจริงเป็นวินาที บริษัทฯ พร้อมยินดีสนับสนุน
3. บริษัทฯ ยืนยันพร้อมปฏิบัติตามมติกทค.ทุกประการ แต่หากมติดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยรวม คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมและกลุ่มที่เรียกร้องให้กทค.ยืนยันใช้มติวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ดังเดิมต้องแสดงความรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้น
ด้านบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่าตามที่ กทค.จะจัดประชุมเพื่อพิจารณาคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย ตามมติกทค.เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 นั้น ทรูมูฟ เอช พร้อมจะปฎิบัติตามมติกทค.ทุกประการ แต่ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาในที่ประชุมดังต่อไปนี้
1. การคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย บนคลื่นความถี่ 2100 MHz ย่าน1800 MHz และ 900 MHz บริษัทฯ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 70-80 ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะบริษัทฯ อาจมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องยกเลิกแพคเกจและโปรโมชั่นเหมาจ่ายที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯจะนำอัตราค่าบริการตามอัตราที่กสทช. กำหนดมาใช้ในการคำนวณ ได้แก่ คลื่น 1800 MHz 900 MHz หรือคลื่น 4จี กสทช.กำหนดให้คิดต่ำกว่านาทีละ 69 สตางค์ หรือสูงสุดได้ไม่เกินนาทีละ 68 สตางค์ บริษัทฯหารเฉลี่ยแล้วตกวินาทีละ 1.13 สตางค์ ส่วนคลื่น 2100 MHz หรือ 3 จี คิดค่าบริการนาทีละ 82 สตางค์ จะหารออกมาเป็นวินาทีละ 1.37 สตางค์ ซึ่งการคิดอัตราค่าบริการเป็นวินาที เพียงทางเดียวเช่นนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่เลือกบริการโทรนานๆ แต่เสียค่าบริการในราคาเหมาจ่ายเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ไม่สอดคล้องกลไกตลาดและการแข่งขันเสรีในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
2. บริษัทฯ ยื่นอุทธรณ์ขอให้กทค. และ กสทช. พิจารณาทบทวนมติดังกล่าว ทั้งยังเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดประชุมหารือกลุ่มย่อย ในเรื่องแนวทางการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งคลื่น 4 จีและคลื่น 3 จี สำนักงาน กสทช.จัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 โดยเห็นว่าแนวทางที่เหมาะสม ควรปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกการแข่งขันของตลาด โดยให้มีทั้งการคิดอัตราค่าบริการตามจริงเป็นวินาทีและการคิดเป็นเหมาจ่าย เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ตามความจำเป็น
3. บริษัทฯ ยินดีปฏิบัติตามมติกทค. ทุกประการ แต่หากมติดังกล่าวมีผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยรวม คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมและกลุ่มที่เรียกร้องให้ กทค. ใช้มติวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 จะต้องแสดงความรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้น