นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดแผนงานปี 60 ดัน 7-8 บริษัทเข้าตลาดหุ้นไทย พร้อมเดินหน้าโมเดลธุรกิจระยะยาวมุ่งเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำในกลุ่มประเทศ CLMV เตรียมรุกเข้ากัมพูชาประเดิมปั้นธุรกิจร้านกาแฟเข้าตลาดหุ้น ส่วนลาวสยายปีกไปยังธุรกิจลีสซิ่งและประกันภัย หวังจัดโครงสร้างกลุ่มธุรกิจให้แข็งแกร่งภายในปี 63 ก่อนนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อขยายกิจการต่อไป
“กลยุทธ์ที่วางไว้เป็นแผนระยะยาว 3-5 ปีต่อเนื่องไปถึงปี 63 ซึ่งบริษัทยังคงเน้นไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีช่องทางการขยายโอกาสอีกมากและมีความน่าสนใจจากนักลงทุนต่างๆ ที่พร้อมเข้าไปดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว สิงคโปร์ หรือกัมพูชา นอกเหนือจากประเทศไทยที่ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยหลักสำคัญของการดำเนินงาน คือ การให้ความรู้ความเข้าใจที่ต้องการให้ผู้ประกอบการบริษัทจดทะเบียนใช้เครื่องมือทางการเงินที่ถูกต้อง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ขณะที่หากบริษัทสามารถดำเนินการขยายธุรกิจได้ครอบคลุม อาจจะส่วนหนึ่งในแรงผลักดันให้หลายประเทศสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบ Dual Listing หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเต็มรูปแบบได้ในอนาคต"นายสมภพ กล่าว
นายสมภพ กล่าวว่า สำหรับกิจการหลักในประเทศไทยในปีนี้ตั้งเป้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 2-3 บริษัท และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณ 3 บริษัท คาดว่าในไตรมาส 1/60 จะสามารถยื่นแบบแสดงคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อย่างน้อย 1-2 บริษัท
ส่วนการดำเนินงานใน สปป.ลาว ภายใต้ บล.เอพีเอ็มลาว (APM(LAO)) ที่ดำเนินการมาแล้วกว่า 3 ปีนั้น ถือว่ามีพัฒนาการและการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ปีนี้วางเป้าหมายที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว ไม่น้อยกว่า 3 บริษัท คือ บริษัท พูสีก่อสร้างและพัฒนา มหาชน (PCD) ดำเนินธุรกิจให้บริการงานวิศวกรรมการก่อสร้างแบบครบวงจร และบริษัท ร่วมพัฒนากสิกรรม ขาออก-ขาเข้า มหาชน (UDA) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายลูกหมูที่ได้มาตรฐานในระบบโรงเรือนแบบปิด ซึ่งยื่นไฟลิ่งต่อคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์ (สคคซ.) เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
และยังมีอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท พูสีหลวงพระบางปิโตรเลียมจำกัด (PLP) และบริษัท สิทธิโลจิสติกส์ ลาว จำกัด (STL) ที่อยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อทำการยื่นแบบไฟลิ่งต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดดำเนินการ บริษัท เอพีเอ็ม ลีสซิ่ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งเก่าและใหม่ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยการสร้างอาคารสำนักงานคืบหน้าไปกว่า 80% เชื่อว่าจะเปิดดำเนินการได้ไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากนี้จะต่อยอดไปยังธุรกิจประกันภัยหลังจากที่มีการศึกษามาแล้ว เพื่อให้มีบริการแบบครบวงจรรองรับความต้องการของนักธุรกิจใน สปป.ลาว
นายสมภพ กล่าวว่า แผนดำเนินงานในประเทศอื่นๆ ได้แก่ การจัดตั้งบริษัท APM International ที่ประเทศสิงคโปร์ ยังคงเป็นไปตามขั้นตอนที่ทางบริษัทได้ส่งพนักงานเข้ารับการอบรมเพื่อสอบขอใบอนุญาตเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถทราบผลในเร็วๆนี้
บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมด้านเอกสารเพื่อขอใบอนุญาตเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ในกัมพูชา และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในช่วงกลางปี โดยขณะนี้มีผู้ประกอบธุรกิจร้านกาแฟเตรียมแต่งตั้งให้บริษัทเป็น FA แล้ว ซึ่งระหว่างนี้บริษัทจะเน้นให้ความรู้กับผู้ประกอบการ SMEs ในเรื่องการเข้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และใช้เครื่องมือตลาดทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยศักยภาพทางการเงินที่ได้มาจากการระดมทุน