นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (11 ม.ค.) ยังผันผวนในกรอบ 1,560-1,576 จุด การพักตัวที่ผ่านมามองเป็นการพักในช่วงขาขึ้นของตลาด หุ้นกลุ่มนำตลาดจะกลับมาเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่กองทุนฯและต่างประเทศสนใจ รวมทั้งหุ้นบางตัวในสายสินค้าโภคภัณฑ์ (ไม่รวมน้ำมัน) อีกครั้งในการเก็งกำไรช่วงสั้น
ตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงเป็นลักษณะพักตัวรอข่าว ก่อนหน้านี้นักลงทุนรอดูทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจ แต่หลังจากขึ้นปี 60 ก็หันมาให้ความสนใจเรื่องการขึ้นรับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ และแนวนโยบายทั้งในประเทศ คือ Obama Care และ นโยบายการค้าต่างประเทศที่ทำให้ประเทศผู้ผลิตสินค้า ทั้งญี่ปุ่นและจีน ดูเป็นกังวลต่อเรื่องนี้เหมือนกัน สำหรับวันนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธนานาธิบดีสหรัฐจะให้ข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ตลาดจะจับตาดูว่านโยบายที่หาเสียงกับนโยบายเมื่อเป็นประธานาธิบดีจะแตกต่างกันขนาดไหนและจะมีผลต่อตลาดหุ้นด้วย
ทั้งนี้ World Bank ออกรายงานคาดการณ์ GDP ของโลกปี 60 ขยายตัว 2.7% สูงขึ้นจากปีก่อน โดย Emerging Market ขยายตัว 4.2% จาก 3.4% ในปี 59 และ GDP ของไทย คาดปี 60 จะขยายตัว 3.2% สูงขึ้นจาก 3.1% ในปี 59 การปรับ GDP ครั้งนี้ มีคาดการณ์ 2 ประเทศใหญ่ที่ชะลอตัวลง คือ จีนและญี่ปุ่น
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ปัจจัยยังไม่ต่างจากเดิม คือ การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ เป็นตัวถ่วงราคาน้ำมัน แต่การลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ เป็นบวกต่อราคาน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันทรงๆตัวแต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลายๆตัวกลับมาสูงขึ้น จากปัจจัยในเรื่อง Demand & Supply อาทิเช่น เหล็ก น้ำตาล และยางพารา เป็นต้น
ส่วนปัจจัยในประเทศ ที่น่าสนใจคงเป็นแรงซื้อ หรือ Fund Flow ที่กลับเข้ามาในตลาด และที่น่าแปลกใจคือกระจายมากขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกเฉพาะของไทยในวันนี้ ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นในวันนี้ การที่ SET Index กลับขึ้นมาบวกได้อีกครั้งและใกล้จุดสูงสุดเดิมที่ 1,575 จุด เป็นสัญญาณในทางที่เป็นบวก แต่คาดจะไม่แรงเหมือนวันก่อนจากนักลงทุนบางส่วนจะรอดูการแถลงของนายทรัมป์วันนี้
หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน เช่น BBL,SCC,PSH,BA,LOXLEY,PAP,STA