บมจ.ศุภาลัย (SPALI) ตั้งเป้าปี 60 มียอดรายได้เพิ่มเป็น 2.45 หมื่นล้านบาท ตามยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 2.45 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี่มีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 29 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาท โดยเตรียมงบลงทุนราว 8 พันล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินใหม่
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ SPALI กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 อยู่ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่เตรียมโอนทั้งหมด 10 โครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มูลค่าโครงการที่สร้างเสร็จรวมราว 1.7 หมื่นล้านบาท
การโอนโครงการน่าจะกระจุกตัวในครึ่งปีแรกมากที่สุด โดยจะมีจำนวนคอนโดมิเนียมที่จะโอน 7 โครงการ และจะกระจายตัวของการโอนในครึ่งปีหลังอีก 3 โครงการ ซึ่งในไตรมาส 4/60 จะมีการโอนโครงการใหม่ คือ โครงการศุภาลัย เวลลิงตัน 2 มูลค่าโครงการ 3.6 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้ไนไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทมียอดสัญญารอโอนกรรมสิทธิ์ในปัจจุบันอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ราว 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 62
สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีโครงการเลื่อนการเปิดตัวมาจากปี 59 โครงการใหม่ดังกล่าวแยกเป็นโครงการแนวราบ 24 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ ซึ่งจากการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งการเปิดตัวโครงการที่เลื่อนจากปีก่อน ทำให้ในปีนี้เป็นปีแห่งการปรับสมดุลของตลาด โดยตลาดคอนโดมิเนียม รวมทั้งตลาดแนวราบทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้นและนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านธุรกิจอสังหาฯ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง อีกทั้งแผนการประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีการเลื่อนออกไป ล้วนส่งผลให้ทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 60 สดใสมากขึ้น
บริษัทยังคงพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายไปยังหัวเมืองต่างๆ ในภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันจังหวัด ที่บริษัทมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา อีกทั้งมีแผนขยายการลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในจังหวัดเชียงรายในช่วงปลายปี 60
นายไตรเตชะ กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะทำได้สูงกว่าไตรมาส 1/59 ที่มียอดขายอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดขายโครงการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 มูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท เป็นปัจจัยสนับสนุนยอดขายในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งบริษัทคาดหวังยอดขายภายในงาน VIP Sale ระหว่างวันที่ 18-23 ม.ค.60 ราว 3 พันล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายที่คาดหวังทั้งปี 6.7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมในระดับ Super Luxury ภายใต้แบรนด์ "ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39" ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ทำเลเชื่อมต่อถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ออกแบบอาคารพักอาศัย 4 อาคาร สูง 25 ชั้น 2 อาคาร และสูง 35 ชั้น 2 อาคาร มีอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น โดยมีจำนวนห้องพัก 1,046 ยูนิค ร้านค้า 8 ยูนิต หลากหลายแบบตั้งแต่ขนาด 1-3 ห้องนอน และ Penthouse 4 ห้องนอน ขนาด 39-355 ตารางเมตร ราคาขาย 4.5-53 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาสแรกยังมีการเปิดขายโครงการแนวราบอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.5 พันล้านบาท โดยบริษัทมองว่าน่าจะสร้างยอดขายที่ดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรในประเทศยังมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดแนวราบในกรุงเทพฯและปริมณฑล
ด้านอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะยังไม่มีแนวโน้มลดลงจากสิ้นปี 59 ที่อยู่ที่ 8% เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่อยู่ที่ 6% เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังคงเข้มงวดการปล่อยส์นเชื่อพอสมควร จากภาวะหนี้สินครัวเรือนที่สูงและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทก็พยายามให้คำปรึกษาใหิแก่ลูกค้าเพื่อความพร้อมในการขอสินเชื่อ และพิจารณาลูกค้าแต่ละกลุ่มให้เหมาะสมของกลุ่มลูกค้าในแต่ละธนาคาร
นายไตรเตชะ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการขายอาคารสำนักงานที่ฟิลิปปินส์ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจ ซึ่งยังไม่สำเร็จลุล่วง แต่คืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงต้นปีนี้ และคาดว่าจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ใช้ระยะเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับโครงสร้างบริษัทย่อยไนปีนี้ด้วยการยุบ 2 บริษัท จากที่มีอยู่ 4 บริษัท เพื่อทำให้การบริหารจัดการภายในง่ายต่อการจัดการมากขึ้น และลดความซับซ้อนของโครงสร้างงองค์กร
สำหรับผลงานปี 59 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ 24,500 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 21 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 16 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 24,120 ล้านบาท
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร SPALI กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 60 คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น รัฐบาลมีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องอีกหลายมาตรการ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปีแห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง ผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่ชะลอการเปิดโครงการใหม่ไว้ในปีที่แล้ว มาปีนี้คาดว่าตลาดอสังหาฯ จะมีการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นกัน
ในปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับตัวเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพื่อรับมือกับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Friendly Design และบริษัทพร้อมจะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยยึดหลักธรรมาภิบาล ทำให้ตลอดปี 59 บริษัทได้รับรางวัลเกียรติยศจากองค์กรชั้นนำต่างๆ จำนวนมาก