“บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง"คาดเข้าเทรด mai ก.พ.60 หลังเดินสายโรดโชว์ 6 จังหวัด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 12, 2017 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) บมจ. บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง (ETE) คาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) และ นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในเดือน ก.พ.60 ภายหลังแผนเดินสายนำเสนอข้อมูลและแนะนำรายละเอียดเบื้องต้นให้แก่นักลงทุน (โรดโชว์)ใน 6 จังหวัดทั่วทุกภาค ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และกรุงเทพมหานคร

“การเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในตัวธุรกิจของ ETE รวมถึงทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน รายได้ และความสามารถในการทำกำไร เพื่อแสดงถึงศักยภาพ รวมถึงโอกาสในการเติบโตของในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งเราหวังว่าจะได้รับความสนใจ และเสียงตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศ"นายวรชาติ กล่าว

ETE ผู้ให้บริการ บริหารจัดการบุคลากร และระบบงานธุรกิจ ในรูปแบบ Outsourcing บริการงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และระบบโทรคมนาคม รวมถึงพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ มีทุนจดทะเบียน 280 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนเรียกชำระแล้ว 210 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 420 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือ คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อชำระเงินทุนกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท

นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ETE กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งการเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัทฯ และการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของบริษัทเพื่อให้นักลงทุนได้ทำความเข้าใจ และใช้ข้อมูลที่ได้มาประกอบการพิจารณามากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าบริษัทฯ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 57 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 1,143.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.78 ล้านบาท, ปี 58 มีรายได้รวม 1,594.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.64 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนประจำปี 59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 1,061.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.36 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจหลักแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย 1.ธุรกิจให้บริการบริหารจัดการ (Management Service หรือ MS) แบ่งเป็นงานบริหารจัดการบุคลากร (Manpower Management หรือ MM) และงานบริหารจัดการระบบงานธุรกิจ (Business Process Outsourcing หรือ BPO) และงานบริหารจัดการรถเช่าพร้อมพนักงานขับรถ (Car Rental management หรือ CM)

2.ธุรกิจให้บริการงานวิศวกรรม (Engineering Service หรือ EN) ประกอบด้วยงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า (Electrical Power Engineering System หรือ EE) และงานวิศวกรรมระบบโทรคมนาคม (Telecommunication Engineering System หรือ TL) และ 3.ธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy หรือ SE)

ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 16.47 เมกะวัตต์ ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรเมืองตราด จำกัด อ.เมือง จ.ตราด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 2.สหกรณ์การเกษตรวัฒนานคร จำกัด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 3.สหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย จำกัด อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 4.สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ คลองน้ำใส จำกัด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 1.47 เมกะวัตต์

ทั้ง 4 โครงการดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD แล้วตั้งแต่เดือน ธ.ค.59 และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นไป โดยมีอายุของสัญญาซื้อขายไฟ 25 ปี

ทั้งนี้ ETE มีบริษัทย่อยอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อีทีอี เมเนจเมนท์ จำกัด หรือ (ETEM) มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริการบริหารจัดการ และธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.27% และบริษัท ไทย สปีดี้ เมเนจเมนท์ จำกัด หรือ TSDM มีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการรถเช่าพร้อมพนักงานขับนรถ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ