นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยประชาชนและลูกค้าธนาคารที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ ธนาคารจึงได้ให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ แก่ผู้ประสบภัย รวมทั้งการออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบซึ่งจะพิจารณาความเหมาะสมทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละราย เช่น การเพิ่มวงเงินสินเชื่อ การยืดระยะเวลาหรือการปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระ
มาตราการช่วยเหลือของธนาคารในครั้งนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งมาตราการดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงตามพัฒนาการของผลกระทบที่เกิดขึ้น ดังนี้
กลุ่มลูกค้ารายย่อย
1) พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 12 เดือน หรือ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน และปรับลดอัตราการผ่อนชำระ
2) ให้วงเงินสินเชื่อ O/D ระยะเวลา 5 ปี และไม่ต้องชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน โดยปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย MLR-1% ปีที่ 2-5 อัตราดอกเบี้ย MLR เพื่อนำไปปรับปรุง ฟื้นฟูที่อยู่อาศัย หรือสถานประกอบการ
กลุ่มลูกค้าธุรกิจ
1) พักชำระหนี้เงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน หรือ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้สูงสูด 12 เดือน และ ปรับลดอัตราการผ่อนชำระ
2) เพิ่มวงเงินสินเชื่อ O/D 20% ของวงเงินเดิมไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
3) ให้วงเงินสินเชื่อเพื่อปรับปรุง ฟื้นฟูธุรกิจ ระยะเวลา 3 ปี ดอกเบี้ยปีแรก 5% ปีที่ 2-3 MLR-1% และไม่ต้องชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
นอกจากนี้ธนาคารได้เชิญชวนให้ลูกค้า ประชาชน ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ผ่านบัญชีกระแสรายวัน “ช่วยเหลือผู้ประสบภัย" เลขที่บัญชี 889-1-01771-1 โดยสามารถบริจาคผ่านทุกช่องทางของธนาคาร ได้แก่ สาขาทั่วประเทศ ตู้ ATM บริการ Internet Banking LH Bank Speedy และ LH Bank M Choice โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ซึ่งธนาคารจะนำเงินที่ได้รับบริจาคมอบให้แก่สภากาชาดไทย อีกทั้งธนาคารได้ร่วมบริจาคน้ำดื่ม เพื่อนำไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน