FSMART คาดรายได้ปีนี้โตตามตู้บุญเติมที่ตั้งเป้าขยายเป็น 1.2 แสนตู้,เพิ่มบริการจ่ายประกัน-ค่าปรับจราจร

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 16, 2017 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามจำนวนตู้บุญเติม ที่มีแผนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 แสนตู้ จากปีก่อนทีทำได้ทะลุเป้า 9 หมื่นตู้ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7-2.8 หมื่นตู้ ขณะที่มั่นใจว่ายอดเติมเงินผ่านตู้บุญเติมในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ทะลุเป้าหมายวางไว้ 2.1 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการเพิ่มบริการการเติมเงินผ่านตู้บุญเติมต่อเนื่อง ขณะที่ก็จะเจรจากับคู่ค้าเพื่อขยายรูปแบบการโฆษณาใหม่ ๆ ผ่านตู้บุญเติมด้วยเช่นกัน

สำหรับแผนการขยายตู้บุญเติมปีนี้ มองว่ายังมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการตั้งตู้เพิ่มเติมได้อีกทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยอาศัยตัวแทนขาย และการให้บริการที่มีความแข็งแกร่งในการทำตลาด ซึ่งในปีนี้จะเน้นการฝึกอบรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า รวมทั้งติดตามประเมินผลความพึงพอใจของลูกค้าและคู่ค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพนักงานอยู่ 200 คน และจะให้มีการให้เกรดตัวแทนขายเพื่อประกอบการพิจารณาให้สิทธิตั้งตู้เติมเงินในจังหวัดต่าง ๆ โดยหากตัวแทนขายรายใดได้รับเกรดเอก็จะสามารถทำตลาดนอกพื้นที่เดิมได้

นอกจากนั้นการที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ยกเลิกการเป็นตัวแทนขายบัตรเติมเงินวัน-ทู-คอล ของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส ก็จะช่วยให้ความต้องการติดตั้งตู้บุญเติม และการเติมเงินผ่านตู้มีมากขึ้น โดยช่วงเดือนต.ค.59 ที่ร้านเซเว่นฯได้ยกเลิกสัญญากับเอไอเอส ก็ทำให้การเติมเงินผ่านตู้เติบโตก้าวกระโดด แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับมาสู่การเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ขณะที่ในปีนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เพื่อให้บริการชำระค่าบริการสำหรับลูกค้ารายเดือน ของ DTAC ผ่านตู้เติมเงินบุญเติม จากเดิมที่เป็นการให้บริการเฉพาะลูกค้าเติมเงิน (พรีเพด) เท่านั้น รวมถึงกำลังเจรจาเพื่อให้บริการการชำระค่าปรับจราจรผ่านตู้เติมเงินด้วย ตลอดจนเจรจากับบริษัทประกัน 2-3 ราย เพื่อให้บริการรับชำระเบี้ยประกันอุบัติเหตุผ่านตู้บุญเติม ซึ่งในส่วนการให้บริการชำระเบี้ยประกันคาดจะเริ่มได้ในไตรมาส 1/60

ส่วนบริการโอนเงินธนาคารผ่านตู้บุญเติม ก็ได้เจรจากับธนาคารขนาดใหญ่ ที่จะให้บริการโอนเงินสำหรับรายย่อย หลังจากที่ให้บริการกับธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ไปแล้ว โดยที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการมาโอนเงินเฉลี่ยไม่เกิน 700 บาท/ครั้ง ทำให้มองว่าการให้บริการดังกล่าวยังมีโอกาสเติบโตได้มาก เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของธนาคารในการให้บริการแก่รายย่อย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการรายย่อยด้วย

สำหรับการหารายได้ค่าโฆษณานั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทเพื่อวางแผนงานของปีนี้ โดยบริษัทมองว่ารายได้ในส่วนค่าโฆษณามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากปีที่แล้วสัดส่วนรายได้เข้ามาประมาณ 3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ