นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผย"อินโฟเควสท์"ว่า การที่บริษัทตัดสินใจเข้าลงทุน 10.24% ในแหล่งก๊าซธรรมชาติ Marcellus shale ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/60 เนื่องจากเป็นแหล่งก๊าซฯที่มีการผลิตอยู่แล้ว
การลงทุนครั้งนี้นับเป็นการลงทุนในแหล่งก๊าซฯแห่งที่ 2 ที่เข้าลงทุนในบริเวณแหล่ง Marcellus shale ส่งผลให้กำลังการผลิตตามปริมาณสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจก๊าซฯเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งสองแหล่งเป็นการผลิตก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (shale gas) โดยแหล่งก๊าซฯแห่งแรก BANPU มีสัดส่วนการลงทุน 29.4% คิดเป็นการถือครองปริมาณสำรองก๊าซฯอยู่ที่ 156,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต และมีปริมาณการผลิตคิดตามสัดส่วนการลงทุน ประมาณ 21 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
สำหรับแหล่งก๊าซฯแหล่งที่สอง มีสัดส่วนการถือครองปริมาณสำรองก๊าซฯอยู่ที่ 133,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต และมีปริมาณการผลิตคิดตามสัดส่วนการลงทุน ประมาณ 18 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
ทั้งนี้ การเข้าลงทุน 10.24% ในแหล่งก๊าซฯแหล่งที่สองนี้ ใช้เงินลงทุนจำนวน 63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,230 ล้านบาท ซึ่งมาจากกระแสเงินสดของบริษัท โดยไม่จำเป็นต้องระดมเงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด
นางสมฤดี กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงมองหาโอกาสในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในแต่ละประเทศจะมีแผนกระจายประเภทเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า เพื่อสร้างสมดุลพลังงานให้กับประเทศ โดยสัดส่วนความต้องการใช้ของก๊าซฯยังคงเติบโตอยู่เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลและแผนการใช้เชื้อเพลิงของแต่ละประเทศว่าจะเป็นอย่างไรด้วย โดยบริษัทได้ติดตามทิศทางการใช้พลังงานและแนวปฏิบัติตามข้อตกลงจากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 22 (COP 22) เพื่อปรับแผนกลยุทธ์ให้มีความเหมาะสมและสร้างความสมดุลให้กับกลุ่มธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่