(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์จากความไม่แน่นอน Brexit แต่คาดเก็งกำไรแบงก์หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 18, 2017 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากปัจจัยจากต่างประเทศมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น แต่ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่ออกมาดีกว่าคาดยังช่วยทำให้เกิดแรงเก็งกำไรได้บ้าง

ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนในต่างประเทศเป็นเรื่องของการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกมากล่าวว่า การออกจาก EU เป็นเรื่องยากลำบาก เพราะต้องขอเสียงโหวตจากรัฐสภาของอังกฤษอีกที เพื่อเข้าขบวนการออกอย่างแท้จริง ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าประชามติที่จะออกจาก EU อาจจะไม่มีผลก็ได้ และตลาดฯได้ตีความว่าอังกฤษไม่อยากออกจาก EU ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น

อย่างไรก็ดี คงจะต้องรอดูนโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ด้วย ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ แต่ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ม.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,826.77 จุด ลดลง 58.96 จุด (-0.30%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,538.73 จุด ลดลง 35.39 จุด (-0.63%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,267.89 จุด ลดลง 6.75 จุด (-0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 59.57 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 48.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 9.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 11.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.35 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ม.ค.60) 1,566.84 จุด ลดลง 4.96 จุด (-0.32%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ม.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ม.ค.60) ปิดที่ 52.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ม.ค.60) ที่ 7.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.30 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ จากการแสดงความเห็นของ"ทรัมป์
  • หอการค้าไทย ประเมินน้ำท่วมใต้ หากยุติภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เสียหายไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท แต่หากลากยาว 1-2 เดือน เสียหายเพิ่มเป็น 1.2 แสนล้าน เหตุยางพาราและปาล์มน้ำมันตายเกลี้ยง
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกเดือน ม.ค. 2017 โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของโลก จะใหมอยู่ที่ 3.4% จากปัจจัยสหรัฐอเมริกาและจีนมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ ไอเอ็มเอฟปรับคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ ปีนี้จาก 2.2% เป็น 2.3% และปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจจีนจาก 6.2% เป็น 6.5%
  • นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2560 ได้เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งทางการประกาศให้เป็นพื้นที่อุทกภัย แบ่งเป็น 2 มาตรการ มาตรการแรก การยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ โดยกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้มีเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งในลักษณะถาวรกับตัวอาคารหรือในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคาร หรือในการซ่อมแซมห้องชุดในอาคารชุดหรือทรัพย์สินที่ติดตั้งในลักษณะถาวรกับห้องชุดในอาคารชุดที่ได้มีการจ่ายไประหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 2559-31 พ.ค. 2560 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดไม่เกิน 1 แสนบาท
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ได้อนุมัติการจัดสรรงบประมาณของงบประมาณเพิ่มเติมประจำปี 2560 วงเงินรวม 1.9 แสนล้านบาท และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" แนวโน้ม 4Q59 อาจดีกว่าที่เราและตลาดเคยประเมินไว้ และเป็นไปได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งจากสินค้าใหม่ที่เปิดตัวจำนวนมาก และแรงหนุนจากมาตรการช้อปช่วยชาติปลายปี ขณะที่โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆแม้พัฒนากล้องดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถแทนที่กล้องจริงได้ ประกอบกับ BIG ขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันเพื่อลดความผันผวนจากการขายกล้อง มีแนวโน้มปรับกำไรและราคาพื้นฐานขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในช่วง 6.40-6.90 บาท
  • KBANK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"กำไรสุทธิ 4Q59 ดีกว่าคาด โดย -5.6% Q-Q, +87% Y-Y จากค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคาด สำหรับกำไรทั้งปี 59 +1.8% Y-Y ถือว่าแข็งแกร่งเพราะเป็นปีแห่งการตั้งสำรองเพิ่มแต่ KBANK ยังสามารถทำให้กำไรเติบโตได้ ส่วน NPL เริ่มนิ่งและ Coverage ratio สูงอยู่ที่ 131% มีแนวโน้มปรับเพิ่มกำไรและราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ 202 บาท
  • BANPU (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 23.60 บาท อิงวิธี SOTP ภายใต้สมมติฐานราคาขายถ่านหินเฉลี่ย 70 เหรียญฯต่อตัน ด้วยปัจจัยหนุน (1) ธุรกิจถ่านหินฟื้นจากอานิสงส์นโยบายจีนควบคุมการผลิตภายในประเทศ (2) ปริมาณขายถ่านหินจากการเข้าทำสัญญาขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น (3) ปริมาณส่งออกถ่านหินจากออสเตรเลียไปจีนทำจุดสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยประเมิน Sensitivity Analysis บนกำไรสุทธิต่อปีพบว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น ราว 1.19 พันล้านบาท หากราคาขายเฉลี่ยที่เหมืองออสเตรเลียปรับเพิ่มขึ้นจาก 67 เหรียญฯต่อตัน เป็น 72 เหรียญฯต่อตัน หรือคิดเป็น Upside ต่อหุ้น ราว 2.89 บาท อิง PER 12 เท่า (4) ประเมินกำไรส่วนเพิ่มต่อปีไว้ที่ 121 ล้านบาท และมูลค่าพื้นฐานส่วนเพิ่มไว้ที่ 1.14 บาทต่อหุ้น จากการเข้าแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 ที่ในสหรัฐฯ (5) คาดกำไร 4Q59F เป็น New High ของปี 59
  • SCB (โกลเบล็ก) เป้า 172 บาท สินเชื่อเติบโตที่สุดในกลุ่ม 11M59 สินเชื่อสุทธิเติบโต 4.6%YTD สูงที่สุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 59 ราว 4.6 หมื่นลบ. -3% และกำไรปี 60 ราว 4.94 หมื่นลบ. +7% โดยมีอัพไซต์จากการกลับสำรองหนี้สูญจำนวน 1.1 หมื่นลบ.ลูกหนี้กลุ่ม SSI

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ