นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 17 โครงการ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8 พันล้านบาท และสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 7 พันล้านบาท และสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/60 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพลีโน่ บางใหญ่ ทาวน์โฮม 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ จำนวน 350 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 980 ล้านบาท หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยขนาด 18-20.6 ตารางวา ราคาเริ่ม 2 ล้านต้นๆ และโครงการพลีโน่ สุขสวัสดิ์ จำนวน 497 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.49 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการประกอบด้วยทาวน์โฮม 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ พื้นที่ใช้สอยขนาด 16.4-18 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 2 ล้านต้นๆ
และบ้านแฝด 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ ขนาดเริ่มต้น 36 ตารางวา หน้ากว้าง 6.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 125.35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท และอีก 1 โครงการจะเป็นการพัฒนาเฟสต่อเนื่องจากปีที่แล้วคือ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา เฟส 2 เป็น SUPER LUXURY VILLA Series ใหม่ หลังจากเฟสแรกที่เปิดตัวไปเมื่อปี 59 ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ราคาเริ่มต้น 25 ล้าน
นอกจากนี้ ในปีนี้ AP และพันธมิตร "มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป" (MEC) ยังคงวางแผนที่จะพัฒนาโครงการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ AP มองว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของความร่วมมือมิใช่แค่การร่วมทุน แต่ทุกวันนี้ AP กับพันธมิตรญี่ปุ่นมีความร่วมมือในด้านการแบ่งปันและถ่ายทอดความรู้สู่กันในหลายๆ ด้าน และในทุกระดับ โดย AP ได้สนับสนุนบุคลากรไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่น รวมถึงนิสิตนักศึกษาฝึกงานที่เข้าร่วมหลักสูตรฝึกงาน เอพี โอเพ่นเฮาส์ของ เอพี อะคาเดมี่ ในขณะที่ MEC ก็ส่งบุคคลากรมาเรียนรู้ดูงานกับทางเอพีเช่นกัน
“ด้วยความพร้อมด้านทีมงานคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ และพันธมิตรคุณภาพ ผมเชื่อว่าเอพี ไทยแลนด์จะสามารถสร้างความแตกต่างและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และยังคงเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้าน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย"นายอนุพงษ์ กล่าว
นายอนุพงษ์ มองแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 60 ว่า พื้นฐานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในวันนี้ไม่ได้แย่มาก ถึงแม้ภาพรวมการเปิดตัวในช่วงปีที่ผ่านๆ มาจะติดลบก็ตาม วันนี้หลายๆ อย่างเริ่มมีความชัดเจนขึ้น กิจกรรมทางการตลาดและบรรยากาศในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติบ้างแล้ว
"ปีนี้เราจะเห็นภาพการแข่งขันในสินค้ากลุ่มแนวราบมากขึ้น ซึ่งความท้าทายที่สำคัญของการทำธุรกิจจากนี้ไปคือ การสรรหาที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการในแพคเกจราคาขายที่สอดรับกับความสามารถของผู้บริโภค การขยายตัวของรถไฟฟ้าถือเป็นทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยเสี่ยงของภาคธุรกิจ ด้วยราคาต้นทุนที่ดินที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินกว่าผู้บริโภคจะตามทัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเปิดตัวใหม่ของคอนโดมิเนียมในอนาคต อีกทั้งผู้บริโภคมองหาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา สำหรับเอพีเรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ โดยเน้นกระบวนการคิดที่มุ่งสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าควบคู่ไปกับการพัฒนาและควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน"นายอนุพงษ์ กล่าว