นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอทีพี 30 (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 60 ว่า รายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯคาดว่ารายได้จะขึ้นมาอยู่ที่ 340-350 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
ปัจจุบันบริษัทฯมีสัญญาบริการให้กับลูกค้าทั้งหมด 27 ราย มูลค่าสัญญารวม 1,306 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 3-4 ปี โดยจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 320 ล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่อีกหลายราย โดยจะสามารถเซ็นสัญญาลูกค้ารายใหญ่ได้ในเดือนก.พ. นี้ 1 ราย มีอัตราการใช้รถที่ 10-12 คัน
ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อนอยู่ที่ 24% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มการให้บริการรถ VIP Van Service รถตู้รับส่งแบบรายวัน ที่ให้มาร์จิ้นที่ดีกว่ารถรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งบริษัทฯได้เริ่มทดลองให้บริการในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก บริษัทฯจึงมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถเพื่อรองรับการใช้งาน โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนรถโดยสารทั้งหมด 120 ล้านบาท แบ่งเป็นรถรับส่งพนักงานจำนวน 25-30 คัน มูลค่า 105 ล้านบาท และรถธุรกิจ VIP Van Service จำนวน 10 คัน มูลค่า 15 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยในการเดินรถ และควบคุมต้นทุนโดยรวมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการยื่นขอ ISO 39001 เกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยบนท้องถนน เพิ่มมาตรฐานการให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการของ ATP30 คาดว่าจะได้รับการอนุมัติในช่วง ไตรมาส 2 ของ ปีนี้ โดยบริษัทฯจะเป็นรายแรกในประเทศที่ได้มาตรฐานในการรับส่งพนักงาน
"ในปัจจุบันความต้องการเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้นำมาโดยตลอด โดยปัจจุบันเราก็จะเดินไปอีกขั้นของความเป็นมารตฐานที่สูงขึ้น โดยการยื่นขอ ISO 39001 ที่จะทำให้บริษัทฯได้รับความหน้าเชื่อถือมากขึ้น และด้วยการที่บริษัทฯให้บริการที่ดี และราคาที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันยังได้ขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทฯได้เพิ่มการให้บริการด้วยรถไมโครบัสขนาด 20 ที่นั่งและรถมินิบัสขนาด 30 ที่นั่งเพิ่มเติม จากเดิมที่ส่วนใหญ่ให้บริการโดยรถตู้และรถบัสขนาดใหญ่ เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะช่วยให้มีผู้ให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง"นายปิยะ กล่าว
นายปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีความสนใจที่จะเข้าไปประกอบกิจการเดินรถข้ามจังหวัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและรอความชัดเจนกับภาครัฐเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดกับรถตู้โดยสารข้ามจังหวัด โดยในปัจจุบันผู้คนที่เดินทางให้ความสนใจเกี่ยวกับการเดินทางที่ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯค่อนข้างมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารจัดการเรื่องคนขับ และสภาพรถที่เหมาะสมและปลอดภัย หากมีการศึกษาแล้วเป็นไปได้บริษัทฯก็มีความสนใจเข้าไปลงทุนดังกล่าว