ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มั่นในว่า ในปี 60 จะสามารถกลับมามีผลประกอบการกำไร หลังจากปี 59 มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 629.53 ล้านบาท จากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้องสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/59 จากการที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับสภาวการณ์การประกอบธุรกิจที่ท้าทาย
นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIMBT กล่าวว่า ผลประกอบการที่คาดว่าจะมีกำไรในปีนี้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่จะค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสินเชื่อที่คาดว่าจะยังเติบโต 5-10% จาก 3.7% ในปีที่ผ่านมา และรักษาระดับ NPL ให้ไม่เกิน 5% หลังในเดือนธ.ค.59 ธนาคารได้ขาย NPL ออกไปราว 2.6 พันล้านบาท และกระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือนม.ค. ซึ่งจะส่งผลให้ NPL ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 4.8% จากระดับ 6.1% ในสิ้นปี 59
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอยู่ในปัจจุบัน แต่ช่วงที่ผ่านมาถือว่าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยธนาคารมั่นใจว่าการตั้งสำรองปีนี้เพียงพอต่อการรองรับ NPL ที่จะเกิดขึ้น ธนาคารยังตั้งเป้าเพิ่มอัตราส่วนเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ปีนี้เป็นมากกว่า 100% จากสิ้นปี 59 อยู่ที่ 77.3% ขณะที่ปีนี้อาจไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่มจากระดับปกติ เนื่องจากปีก่อนมีการตั้งสำรองสูงเพียงพอแล้ว
ขณะที่การเพิ่มทุน 5.5 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 9 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 1 บาทนั้น ทำให้ธนาคารมีกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) แข็งแกร่งขึ้นเป็น 18.5% จากสิ้นปี 59 อยู่ที่ 16.1% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier) เพิ่มเป็น 13.4% จากสิ้นปี 59 ที่ 10.7% ซึ่งจะเป็นการเสริมความมั่นคงของฐานเงินกองทุนและงบดุลของธนาคารมากยิ่งขึ้นพร้อมรับการเติบโตของธุรกิจในปี 60
"การเพิ่มทุนครั้งนี้เพราะแบงก์ต้องการขยายธุรกิจในระยะกลาง-ยาว และเป็นการยืนยันว่าจะยังมีการขยายกิจการอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยการเพิ่มเงินในกองทุนขั้นที่ 1 ยังมีระยะเวลาอีก 20 เดือน ที่จะสามารถเพิ่มกองทุนขั้นที่ 1 ได้อีก ซึ่งก็ต้องดูตามความเหมาะสมไป"นายกิตติพันธ์ กล่าว
นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า ธนาคารได้วางยุทธศาสตร์ตามหลัก 5 C's ประกอบด้วย Customer (ลูกค้า) Culture (วัฒนธรรม) Compliance (การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์) Cost (ค่าใช้จ่าย) และ Capital (เงินทุน) โดยธนาคารยังคงเป็นตลาดหลักเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มซีไอเอ็มบี ในการเสริมและสนับสนุนการค้าข้ามพรมแดนภายในภูมิภาคอาเซียน จากการที่กลุ่มซีไอเอ็มบีมีเครือข่ายธุรกิจอยู่ในหลายประเทศเศรษฐกิจหลักของภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/60 มีลูกค้าของธนาคารที่จะระดมทุนเพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 2 ดีล โดยมาจากธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งในปีนี้ยังมีลูกค้าในมืออยู่จำนวนมาก
ด้านนายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ของ CIMBT เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อยเติบโต 7-10% และ เงินฝากเติบโต 5-6% ส่วน NPL รักษาไม่ให้เกิน 3% ซึ่งเท่ากับปีที่แล้ว โดยปีนี้บรรยากาศในประเทศดีกว่าปี 59 แต่ยังมีปัจจัยลบ คือ สถานการณ์ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในสหรัฐ หรือกรณีที่อังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)