บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครือข่ายแบรนด์ D-Link ผู้นำผลิตภัณฑ์เครือข่ายของโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่งสองคล้องกับกลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการขยายตลาดในการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานระดับโฮมยูส และกลุ่มธุรกิจองค์กรเพิ่มมากขึ้น
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ SYNEX กล่าวว่า การจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันครั้งนี้ จะทำให้สินค้าในกลุ่มเน็ตเวิร์กกิ้งของบริษัท มีความหลากหลายตามความต้องการของลูกค้าทั้งในส่วนของโฮมเน็ตเวิร์ก ISP (Internet service provider) และ SMB ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัท และ D-Link เป็นไปตามเป้าหมาย
บริษัทยังคงเป้ารายได้รวมปี 60 ที่ 2.55 หมื่นล้านบาท เติบโต 8-10% จากปีก่อนที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมาย สำหรับการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ D-Link ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าที่จะเข้ามาเติมเต็มในกลุ่มคอมเมอร์เชียลในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลได้เพิ่มขึ้นทั้งจากผู้ใช้องค์กร และผู้ใช้ทั่วไป โดยปีนี้ตั้งเป้าสินค้าในกลุ่มคอมเมอร์เชียลเติบโต 17% จากปีก่อน ซึ่งถือว่าเติบโตมากกว่ารายได้รวมของบริษัท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% ของรายได้รวม ปีนี้ก็คาดว่ายอดขายกลุ่มนี้ราว 8,000 ล้านบาท
โดยปี 59 ที่ผ่านมา สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน 22% กลุ่ม Networking 16-17% คอมเมอร์เชียล เกือบ 30% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งบริษัทมีสินค้าในพอร์ตราว 9 กลุ่ม โดยปีนี้ในกลุ่มคอมเมอร์เชียลก็จะเป็น 30% ซึ่งบริษัทมีสินค้าในพอร์ตราว 9 กลุ่ม ซึ่งนอกจากแบรนด์ D-Link แล้วในไตรมาส 1/60 ก็คาดว่าจะสรุปแบรนด์ใหม่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตอีก 2 แบรนด์
ในส่วนของดีลร่วมทุนที่อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรในประเทศอีก 2 ดีลนั้น คาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาส 1/60 เช่นกัน เป็นดีลขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มาเสริมบริษัทให้เข็มแข็งมากขึ้น โดย 1 ดีลจะเป็นสินค้าในกลุ่มไอที ซึ่งได้เตรียมเงินลงทุนไว้ 300-500 ล้านบาท สำหรับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ทั้ง 2 แห่งดังกล่าว
"ปีนี้ที่ตั้งเป้ารายได้โต 8-10% ยังไม่นับรวมดีล join venture ที่คาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาส 1/60 นี้อีก 2 ดีล"นางสาวสุธิดา กล่าว
นางสาวสุธิดา กล่าวอีกว่า สำหรับกำลังซื้อสินค้าไอทีในปีนี้มองว่าจะดีกว่าปีก่อน เพราะยอดขายเดือนม.ค. ดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน ในแง่ของเศรษฐกิจก็เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน นอกจากนี้การที่ประเทศไทยจะเข้าสู่"ไทยแลนด์ 4.0" ก็เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าไอทีเช่นกัน
ทั้งนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.5% แม้จะได้สินค้าคอมเมอร์เชียลมาเพิ่ม ก็มีสินค้าบางกลุ่มที่มาร์จิ้นแคบลง ขณะที่ในด้านการหาแหล่งเงินทุนนั้น บริษัทยังมองช่องการระดมเงินอื่น ๆ จากปัจจุบันที่มีเพียงการใช้เงินกู้จากธนาคาร 500 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก โดยไม่มีการออกตั๋วแลกเงิน (B/E)
"ปีนี้เราจะโตจากสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล ที่จะเป็นตัว Drive อย่างจริงจัง ยอดขายกลุ่มนี้ก็น่าจะโตมากขึ้น อีกทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นที่สูงกว่าสินค้ากลุ่มอื่น ซึ่ง D-Link ปีนี้จะเป็นแบรนด์ใหม่มาเสริมพอร์ตมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน SYNEX เข้มแข็งในกลุ่มคอมซูมเมอร์ อนาคตก็จะเข้มแข็งกลุ่มคอมเมอร์เชียลด้วย ขณะที่กลุ่มสมาร์ทโฟนที่โตแรง ปีนี้ก็ยังโตดี ปีนี้ผลประกอบการก็น่าจะเป็นบวกขึ้น เพราะแต่เดือนม.ค.ยอดขายก็ตามเป้าแล้ว โดยรวมปีนี้ก็เชื่อว่าดีกว่าปีก่อนแน่นอน"นางสาวสุธิดา กล่าว