(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดตปท.ขึ้นทั่วหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 25, 2017 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากวานนี้ โดยมองว่าน่าจะได้รับ Sentiment เชิงบวก จากตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า ทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรป ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ติดลบเล็กน้อย

ทั้งนี้ เป็นผลจากคลายความกังวลนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ยังไม่มีความชัดเจน และเรื่องการที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทางศาลฏีกาก็บอกว่าอังกฤษจะออกจากยูโร โซน จะต้องรออนุมัติจากรัฐสภาก่อน ทำให้กรณี Brexit ของอังกฤษอาจยังต้องใช้ระยะเวลา และการที่อังกฤษยังไม่ออกจากยูโร โซน ก็ทำให้ยังไม่มีผลกระทบต่อยุโรป

ส่วนบ้านเราก็คงจะมีการเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการปี 59 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งก็เริ่มจะมีการเก็ง Real Sector กัน โดยวันนี้จะมีการประกาศผลประกอบการของบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และในวันพรุ่งนี้ก็ประกาศผลประกอบการ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)

พร้อมให้แนวรับ 1,566-1,573 จุด ส่วนแนวต้าน 1,583-1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ม.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,912.71 จุด พุ่งขึ้น 112.86 จุด (+0.57%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,600.96 จุด เพิ่มขึ้น 48.02 จุด (+0.86%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,280.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด (+0.66%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 303.24 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 116.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.57 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.03 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.77 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.03 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ม.ค.60) 1,578.82 จุด เพิ่มขึ้น 8.03 จุด (+0.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 851.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ม.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ม.ค.60) ปิดที่ 53.18 ดอลลาร์/บาร์เรล .เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ม.ค.60) ที่ 6.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.23/26 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบเหตุตลาดนิ่งช่วงใกล้วันตรุษจีน-ไร้ปัจจัยใหม่
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยปี 2559 มีมูลค่า 2.15 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.45% เทียบกับปี 2558 ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวเป็นบวกในรอบ 4 ปี หลังจากที่การส่งออกติดลบต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2556 โดยเดือน ธ.ค. 2559 มียอดส่งออก 1.81 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.23%
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ขยายเวลามาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ ออกไปอีกเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2560 จากเดิมที่ได้สิ้นสุดไปเมื่อสิ้นปี 2559
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ โดยต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากแต่ละวิธีให้ผลที่แตกต่างกัน ขณะที่ความไม่แน่นอนเหล่านี้ทำให้ความผันผวนขึ้นในตลาดเงินยังคงอยู่และมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามภาวะที่มีความไม่แน่นอนในเชิงนโยบาย การติดตามข่าวสาร และการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้นสำหรับผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
  • ก.ล.ต.ตีกรอบคนซื้อตั๋ว B/E เตรียมระดมความเห็นทุกฝ่ายภายใน 2 สัปดาห์ เล็งกำหนดให้ขายกับนักลงทุนเฉพาะกลุ่มที่รู้จักบริษัทดี และต้องออกตราสารหนี้ที่เป็นหุ้นกู้เท่านั้น โดยยังประเมินไม่ได้ว่าจะมีบริษัทผิดนัดชำระอีกเท่าไหร่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • FSMART (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 22 บาท ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงแรงเพราะกังวลข่าว TRUE มีแผนติดตั้งตู้เติมเงินที่ร้าน 7-11 ให้เติมได้เฉพาะระบบ Truemove โดยคิดว่าการจะติดตั้งให้ได้ 8,000 ตู้เท่า FSMART ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เร็วและต้องใช้ทรัพยากรในการบริหารจัดการระบบ โดยยังคงคาดกำไร 4Q59 ของ FSMART ทำ new high ทั้งปี 2559 เพิ่มขึ้น 50% คาดปี 2560 เพิ่มขึ้น 39% การอ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อ แนะนำซื้อต่ำกว่า 20 บาท
  • TPCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท น้ำท่วมภาคใต้กระทบจำกัดมากเพราะโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่จ.นครศรีธรรมราช อยู่ห่างจากพื้นที่น้ำท่วม ส่วนโรงไฟฟ้าที่กำลังสร้างอาจ COD ล่าช้าเล็กน้อย โดยยังคงคาดกำไรปี 2560 +88% Y-Y จากโรงไฟฟ้าที่เข้ามาเพิ่ม 2 โรง จากปี 2559 ที่มี 4 โรงซึ่งคาดกำไรทั้งปี +295% Y-Y สำหรับกำไรใน 4Q59 คาด +21% Q-Q, +73% Y-Y ทำ new high ต่อเนื่องและสูงสุดในรอบ 5 ปีตั้งแต่เริ่มกิจการ
  • GIFT (เคจีไอฯ) "เก็งกำไร" ประเมินการบริโภคในประเทศที่คาดจะฟื้นตัวในปีนี้จะหนุนแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภท Consumer product (ธุรกิจหลัก GIFT คือ ตัวแทนขายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ สำหรับนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สบู่ แชมพู น้ำยาล้างห้องน้ำ ฯลฯ เป็นต้น) โดยคาดอัตรากำไรปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น จากการเริ่มรุกเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ฯ ในรูปแบบ OEM จากปัจจุบันงบ 9M59 อัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 22.4% นอกจากนี้ Valuation ไม่แพงด้วย Trailing PE 14 เท่า
  • AP (ไอร่า) เป้า 9 บาท มีความน่าสนใจสุดในกลุ่มจากผลประกอบการที่เติบโตชัดเจน คาด 4Q/59 เติบโตสุดในรอบปี และต่อเนื่องแข็งแกร่งไปในปี 60 เติบโต 27% จากแผนส่งมอบ 5 โครงการแนวสูงร่วมทุน ซึ่งทยอยส่งมอบตั้งแต่ปลายปี 59 มูลค่ารวม 13,500 ล้านบาท ทำให้คาดปี 60 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ครั้งแรก ที่ 700 ล้านบาท (คิดเป็น 20% ของกำไรปี’60) และแผนส่งมอบโครงการคอนโดของ AP เองอีก 8 โครงการ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ขณะที่มี Backlog รอโอนรับรู้รายได้ (Excl. JV) 9,676 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 30%ประมาณการรายได้ปี 60 นอกจากนี้ยังมีโครงการระดับหรูพร้อมโอน Vittorio (สุขุมวิท39) มูลค่า 3,500 ล้านบาท เปิดตัว Q1/60 คาดรับรู้ในปี 60 ประมาณ 1,000 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ