โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) จากการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจให้บริการงานด้านการทำเหมืองแร่อย่างครบวงจร และมีความเชี่ยวชาญในการทำงานมายาวนานถึง 30 ปี ขณะที่ปัจจุบันยังมีงานในมือ (Backlog) รวมถึง 3.6 หมื่นล้านบาท สามารถทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึง 11 ปีข้างหน้า อีกทั้งมีลุ้นคว้างานประมูลในอนาคตที่จะออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากงานที่ทำอยู่แล้ว ทั้งโครงการเหมืองถ่านหินแม่เมาะ ซึ่งจะเปิดประมูลในช่วงกลางปีนี้ และเหมืองถ่านหินหงสา ในลาว
นอกจากนี้ยังมีศักยภาพที่จะได้รับงานจากเหมืองแร่อื่นเพิ่มเติมในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเหมืองแร่ดีบุก และเหมืองแร่โปแตชด้วย จากความชำนาญและตลาดต่างประเทศที่ยังเปิดอยู่ ขณะที่แนวโน้มกำไรที่จะเติบโตสูงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/59 ถึงช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 1/60 จะช่วยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นอีกด้วย
หุ้น SQ ช่วงเช้าอยู่ที่ 5.10 บาท ลดลง 0.05 บาท (-0.97%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.23%
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 5.75 บัวหลวง ซื้อ 5.70
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มอง SQ เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจให้บริการงานด้านการทำเหมืองแร่อย่างครบวงจร และมีจุดเด่นที่ความเชี่ยวชาญทำงานมาร่วม 30 ปี มีประสบการณ์ในการบริหารเครื่องจักร ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี และการทำเหมืองต้องมีการลงทุนในเครื่องจักรสูงทำให้ SQ มีความได้เปรียบที่จะได้งานโครงการเหมืองถ่านหินแม่เมาะ 9-11 และ หงสา G-H รวมมูลค่า 1.25 แสนล้านบาท ในอนาคต และยังมีศักยภาพที่จะรับงานอื่น เช่น เหมืองแร่ดีบุก และ เหมืองแร่โปแตซ ปัจจุบัน SQ มีงานทำเหมืองแร่ถ่านหินที่แม่เมาะ มูลค่างานในมือถึง 2.48 หมื่นล้านบาท และที่หงสา มีมูลค่างานในมือ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยในอนาคตจะมีการประมูลงานเหมืองถ่านหินโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 (ปี 62-73) , แม่เมาะ 10 (ปี 69-80) , และ แม่เมาะ 11 (ปี 72-88) มีมูลค่ารวมกันถึง 1 แสนล้านบาท และโครงการเหมืองถ่านหินหงสา เฟส G และ H มีมูลค่ารวมกัน 2.5 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการแม่เมาะ 9 จะเปิดประมูลประมาณไตรมาส 2/60 และรู้ผลในไตรมาส 4/60 ขณะที่โครงการหงสาเฟส G จะเปิดประมูลในปี 62 ซึ่ง SQ มีจุดเด่นที่จะนำเครื่องจักรเก่ามาใช้งานต่อเนื่อง ทำให้ประหยัดเงินลงทุน มีประสิทธิภาพการใช้เครื่องจักร มีความชำนาญในพื้นที่ ทำให้เป็นจุดได้เปรียบที่จะได้งานใหม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ SQ ยังมีศักยภาพที่จะรับงานอื่น ๆ นอกจากโครงการในปัจจุบัน ซึ่งจะเน้นประเทศแถบ CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เช่น โครงการเหมืองโปแตซใต้ดิน เครื่องจักรในการขุดเหมืองใต้ดิน และ ระบบสายพาน จะมีลักษณะคล้ายกัน และ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้ โครงการเหมืองดีบุกในเมียนมา ซึ่งปัจจุบัน เจ้าของเหมืองมีศักยภาพทำได้เพียง 100 ตัน/ปี แต่ถ้าใช้เทคโนโลยีของ SQ จะสามารถขุดได้ปีละประมาณ 2,000 ตัน/ปี ,โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เซกอง ในลาว กำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ (MW) ปัจจุบันกำลังเจรจาขายไฟให้รัฐบาลเวียดนาม โดยช่วงแรกจะมีงานทำลานกองถ่านหินประมาณ 1 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ทางฝ่ายได้ปรับประมาณการรายได้ในอนาคต ของ SQ หลังปี 61 เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 1 พันล้านบาท จากประมาณการเดิมจะคำนวณเฉพาะเหมืองแม่เมาะ 8 และหงสา ซึ่งทำให้ราคาเป้าหมายหุ้น SQ เพิ่มเป็น 5.75 บาท จากเดิม 4.50 บาท ด้านนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะนำ"ซื้อ"หุ้น SQ ด้วยอัตราการเติบโตของกำไรที่เหนือกว่ากลุ่ม จากการมี Backlog ระยะยาว 3.6 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแม่เมาะ 7 (ระยะเวลาสัญญาปี 51-63) มูลค่า 2.61 พันล้านบาท, โครงการหงสา เฟส D มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท (ระยะเวลาสัญญาปี 58-69) และโครงการแม่เมาะ 8 มูลค่า 2.22 หมื่นล้านบาท (ระยะเวลาสัญญาปี 58-68) ทำให้ SQ สามารถรักษาระดับรายได้ 3-4 พันล้านบาท ได้ไปอีก 11 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ SQ ก็มีโอกาสชนะงานประมูลในอนาคตที่จะออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากงานที่ทำอยู่แล้วทั้งแม่เมาะและหงสา โดยคาดโครงการใหม่แม่เมาะ 9 จะเปิดประมูลในช่วงกลางปีนี้ มองว่าบริษัทมีโอกาสที่จะได้งานสูง เนื่องจากเป็นส่วนงานที่ทำต่อจากแม่เมาะ 7 ซึ่ง SQ สามารถย้ายเครื่องจักรจากแม่เมาะ 7 ไปใช้งานได้ โดยโครงการแม่เมาะ 9 มีมูลค่างานราว 3 หมื่นล้านบาท และยังมีโครงการหงสา เฟส G ที่จะประมูลช่วงปี 62 รวมถึงยังมีโอกาสได้งานใหม่ในธุรกิจเหมืองแร่อื่นนอกเหนือจากเหมืองถ่านหินด้วย แนวโน้มกำไรของ SQ ในไตรมาส 4/59 จะเติบโตสูงต่อเนื่องไปจนถึงไฮซีซั่นในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นระยะสั้น และคาดกำไรที่จะเติบโตสูง 57% ในปี 61 และเติบโตเฉลี่ยกว่า 50% ในช่วงปี 59-61 เป็นผลจากประสิทธิผลของ Experience Curve effects จะหนุนความยั่งยืนของกำไรในระยะยาว ด้านบทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า หุ้น SQ เป็นหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำ โดยข้อมูล Consensus เห็นว่า P/E ในปี 60 ต่ำเพียง 15.3 เท่า และจะลดลงเป็น 11.2 เท่าในปี 61 เมื่อพิจารณาเทียบกับ Backlog ในมือที่มีอยู่ ถือว่า Valuation น่าสนใจในกลุ่มงานรับเหมาที่มี P/E เฉลี่ยมากกว่า 20 เท่า ขณะที่ความผันผวนของรายได้ของ SQ ต่ำกว่ากลุ่มงานรับเหมาทั่วไป ขณะที่ยังมี Upside อยู่ที่งานต่อเนื่องในโครงการที่มีโอกาสชนะสูง เช่น งานโครงการเหมืองแม่เมาะเฟส 9 ที่คาดจะเริ่มเปิดประมูลกลางปีนี้ ซึ่งการเป็นโครงการต่อเนื่องทำให้ต้นทุนเรื่องเครื่องจักร ต่ำกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้มีโอกาสได้งานสูง แต่ Consensus ยังไม่รวมประเด็นนี้ในประมาณการฯ