การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ต้องเลื่อนการพิจารณาวาระการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ว่างลง 5 ตำแหน่งออกไปเป็นครั้งหน้าหลังจากผู้ถือหุ้นลงมติไม่เห็นด้วยกับทุกรายชื่อที่ฝ่ายบริหารเสนอมา โดยทาง IFEC คาดว่าจะสามารถจัดการประชุมครั้งใหม่ได้อย่างเร็วที่สุดคือใน 15 วันจากนี้
เช้าวันนี้ผู้ถือหุ้นจำนวนมากเดินทางมาร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้น เวลา 10.00 น. ณ สโมสรทหารบก วิภาวดี วันนี้ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังจาก IFEC เกิดปัญหารุมเร้าหลายด้านจนมาถึงจุดการชิงอำนาจบริหารระหว่างกลุ่มผู้บริหารชุดปัจจุบัน กับอดีตผู้บริหารและกลุ่มทุนใหม่ ผ่านการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่เป็นหนึ่งในประเด็นร้อนของการประชุมในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจสอบผู้เข้าร่วมประชุมวันนี้เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยขณะนี้มีผู้ถือหุ้นที่เดินทางมาร่วมประชุมแล้วกว่า 500 คน หรือมีจำนวนหุ้นคิดเป็นสัดส่วนหุ้นราว 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่อนุญาตให้หนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น 1 ฉบับต่อผู้เข้าประชุม 1 คนเท่านั้น ซึ่งก่อนจะเข้าสู่ห้องประชุมจะต้องผ่านเครื่องสแกนและตรวจสัมภาระทั้งหมด
การประชุมเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ โดยเจ้าหน้าที่ได้รายงานสรุปข้อมูลการลงทะเบุยนต่อที่ประชุมว่า มีผู้เข้าประชุมด้วยตัวเอง 453 ราย ถือหุ้นรวม 55,335,537 หุ้น มอบฉันทะ 421 ราย ถือหุ้นรวม 227,038,790 หุ้น รวมจำนวนผู้เข้าประชุมทั้งหมด 874 ราย รวมถือหุ้นทั้งสิ้น 822,374,363 หุ้น คิดเป็๋น 41.4518% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด 1,983,927,367 หุ้น
ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ผู้ถือหุ้นหลายรายลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของผู้จัดการประชุม โดยบางรายระบุว่าตนเองติดหุ้น IFEC ที่ราคาสูง และมีอีกหลายรายที่ติดราคา 16 บาทก็มาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย ต้องการเสนอให้นายวิชัย ลาออกก่อนวาระการเลือกกรรมการชุดใหม่ และให้หาผู้อื่นมาทำหน้าที่แทน อาจจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับต้น ๆ ก็ได้ ขณะที่ผู้ร่วมประชุมบางรายขอให้ผู้ที่ไม่ใช่กรรมการบริษัทลงจากเวที ซึ่งในที่สุดที่ปรึกษากฎหมายและการเงินจึงลงจากเวทีเพื่อให้การประชุมดำเนินต่อไปได้
นายวิชัย กล่าวก่อนทำหน้าที่ดำเนินการประชุมต่อไปว่า "จะขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นดีกว่าจะให้ทำอย่างไร ตอนนี้ผมปกป้องบริษัทฯเพื่อที่จะดูแลผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นรายย่อยหลายรายต้องกินต้องใช้ ผมจะต้องตรวจสอบให้ได้ ถ้าผมไม่อยากปกป้องผมคงไม่ทำแบบนี้ ผมขายหุ้นทิ้ง ผมยังสามารถกลับไปเป็นหมอ ผมมีอาชีพทำ"
"ผมอยู่ครั้งนี้เพื่อความถูกต้อง ผมต้องแก้ไข และเป็นหน้าที่ ผมมีแค่ 3% ผมจะอยู่ทำไมได้นิดเดียวเองขายแล้วไปดีกว่า แต่อยู่ครั้งนี้ผมเป็นปราการด่านสุดท้ายเพื่อดูแลทุกท่านครับ ซึ่งเราต้องมีกรรมการเข้ามาแก้สถานการณ์ทั้งหมด ล้างระบบใหม่ และผมมีทีม เดือนหน้าเราต้องมี B/E ที่จะต้องจ่ายอีก 1,800 ล้านบาท และผมจะอยู่เพื่อที่จะรักษา Power Plant ไว้ให้ได้ และเรายังจะเติบโตได้อีกมาก"นายวิชัย กล่าวกับที่ประชุม
นายวิชัย ได้นำเสนอแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหา IFEC ต่อที่ประชุม คือการเจรจาดึงกลุ่มทุนจีนเข้ามาร่วมทุนในบริษัทลูก ซึ่งคาดว่าจะได้เงินเข้ามาราว 1 พันล้านบาท และการขายกิจการโรงแรมดาราเทวีที่ราคาไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถแก้ปัญหาหนี้ทั้งหมด และมีเงินทุนเข้ามาใช้ขยายงานต่อได้
นอกจากนั้น ในช่วงที่ผ่านมายังได้พูดคุยกับเพื่อนเพื่อให้เข้ามาถือหุ้นเพิ่มเติม และในอนาคตจะเจรจากับกองทุนต่าง ๆ ให้เข้ามาถือหุ้นเพื่อเรียกความมั่นใจให้กลับมา และทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนหนี้ตั๋วแลกเงิน (B/E) ยืนยันว่าจะสามารถจ่ายหนี้ได้แน่นอน และจะแก้ปัญหาทั้งระบบ หากวันนี้ได้รับการอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ตามที่นำเสนอก็มีวิธีการรองรับพร้อมดำเนินการในวันพรุ่งนี้ได้ทันที
ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่วาระที่ 3 การแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ นายวิชัย ได้นำเสนอรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่เพิ่มเติมให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาตามที่กำหนดไว้ในวาระที่ 3 ของการประชุม ประกอบด้วย นายพีรธัช สุขพงษ์ ,นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ,นายสุเมธ สุทธภักติ ,นายพิชญะ อุทัยรัตน์ และนายธวัช ไทรราหู
ขณะที่นายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ๋ IFEC กล่าวกับที่ประชุมว่า ตนเองได้หุ้น IFEC มาโดยชอบธรรม และถือหุ้นอยู่ 202.6 ล้านหุ้น โดยทำการเข้าซื้อตั้งแต่วันที่ 10-17 พ.ย.และพบกับนายวิชัยมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่ได้ข้อยุตติ เนื่องจากนายวิชัยจะให้สิทธิกรรมการของฝ่ายตนเองเข้าไปร่วมในบอร์ดเพียง 1 คน ตนจึงปฎิเสธไปเพราะการมีตัวแทนเข้าไปคนเดียวคงไม่สามารถทำอะไรได้ วันนี้จึงเสนอตัวแทนเข้ามีส่วนร่วม 5 คน
"ช่วงที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะเข้ามา แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะหนี้หรืออะไรก็ตามจนหุ้นถูก SP คุณหมอเองโดนกระทบ ผมเองก็โดนกระทบ ผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกก็กระทบ ทำให้ผมต้องปรึกษาคนเพื่อนและพรรคพวกเพื่อที่จะให้เข้ามาช่วย ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องทำคือ การหาทางออกสำหรับตั๋ว B/E ที่จะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ 200 ล้านบาท"นายทวิช กล่าว
สำหรับตัวแทนทั้ง 5 คนที่นายทวิชนำเสนอในวันนี้ ได้แก่ นายทวิช , พล.อ.สำเภา ชูศรี, พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ ,นายสมชาย สกุลสุรรัตน์, รศ.ประนอม โฆวินวิพัฒน์
อย่างไรก็ตาม ในการลงมติวาระดังกล่าวผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยกับรายชื่อที่คณะผู้บริหารชุดปัจจุบันนำเสนอมาทั้งหมด โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมีคะแนนประมาณ 59-63% ส่วนผู้ที่เห็นด้วยมีคะแนนประมาณ 34-38% ทำให้มีผลสรุปว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้มติไม่เห็นด้วยกับรายชื่อที่นายวิชัยนำเสนอ
ขณะที่นายทวิช กล่าวภายหลังว่า พร้อมหารือกับฝ่ายบริหาร IFEC ชุดปัจจุบันเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาหนี้หลังจากที่ยังไม่มีกรรมการครบตามจำนวน ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้กับผู้ถือตั๋ว B/E ที่ครบกำหนดชำระแล้ว และกำลังจะครบกำหนดชำระออกไปก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม จากคะแนนเสียงที่ออกมาที่ห่างกันค่อนข้างมากจึงมั่นใจว่าในการประชุมครั้งหน้าตัวแทนที่ฝ่ายของตนเองได้นำเสนอรายชื่อเข้าไปเป็นกรรมการจะได้รับการพิจารณาคัดเลือก โดยหลังจากได้รับเลือกแล้วจะพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งหมดของ IFEC ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการตัดขายที่ดินที่ไม่สร้างประโยชน์ และขายสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่แล้วสร้างผลตอบแทนไม่คุ้มค่าออกไป
ขณะที่นายธวัช ไทรราหู ซึ่งเป็นหนึ่งตัวแทนที่นายวิชัยเสนอให้เป็นกรรมการ กล่าวว่า นายทวิช และนายวิชัย ไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว หลังจากนี้จะนำทีมเข้าไปเจรจากับนายทวิชเพื่อหาทางออกร่วมกัน เชื่อว่าน่าจะเห็นความคืบหน้ามากขึ้น แต่ในส่วนของการปลด SP หุ้น IFEC คงยังไม่เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เพราะการแต่งตั้งกรรมการยังไม่เรียบร้อย คาดว่าจะสามารถเรียกประชุมผู้ถือหุ้น IFEC ครั้งใหม่ได้อย่างเร็วที่สุดคือใน 15 วัน
ส่วนปัญหาการชำระหนี้ตั๋ว B/E ทีจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้อีก 200 ล้านบาทนั้น เชื่อว่าบริษัทจะหาทางออกได้ และจะไม่เข้าสู่สถานะ Default Bond เกิดขึ้น โดยหลังจากการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้จบลงแล้ว นายวิชัย ได้เดินทางกลับไปยังบริษัทเพื่อหารือฝ่ายบริหารเป็นกรณีเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าดังกล่าว