นายประเสริฐ อิทธิเฆมินทร์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายบัญชีและการเงิน บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) คาดว่า ผลประกอบการปี 60 จะดีกว่าปีก่อน เนื่องจากธุรกิจซิเมนต์ที่เป็นธุรกิจหลักมีแนวโน้มเติบโตที่ดี ตามแผนลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ส่งผลให้ปริมาณการใช้ซิเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น และน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อ TPIPL อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ในช่วงต้นปีนี้ TPIPL ได้เริ่มเปิดเดินเครื่องการผลิตโรงปูนที่ 4 ขนาดกำลังผลิต 4.5 ล้านตัน เพื่อรองรับกับดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้น
ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทย่อย คือ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ปัจจุบันมีจำนวนโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 4 โรง กำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง กำลังการผลิตรวม 290 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถทยอยแล้วเสร็จและเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปีนี้
อีกทั้งบริษัทยังมีแผนพิจารณาหาแนวทางตัดค่าเสื่อมพิเศษที่มีอยู่กว่า 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น โดยหนึ่งในแนวทางการตัดค่าเสื่อมดังกล่าว คือ การนำ TPIPP เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ยังคงแผนเข้าจดทะเบียนในไตรมาส 1/60 และคาดว่าจะมีมูลค่าการระดมทุนกว่าหมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ TPIPP จะเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 2,500 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 29.8 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขาย หุ้นสามัญในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม TPIPL ไม่เกิน 125 ล้านหุ้น ในอัตรา 162 หุ้นสามัญของบริษัทฯ ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ TPIPP และจำหน่ายให้ประชาชนผู้ซื้อหลักทรัพย์ในและต่างประเทศไม่เกิน 2,375 ล้านหุ้น
ขณะที่การลงทุนในปีนี้ TPIPP จะใช้ลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า มูลค่าโครงการ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินลงทุนในปีนี้จำนวน 8,000-9,000 ล้านบาท และที่เหลือจะใช้ในปีถัดไป ซึ่งแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการระดมทุน