นางอารยา คงสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาทั้งการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอยู่ 2-3 รายในภูมิภาคเอเชีย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงระยะเวลาที่จะได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาศึกษาพอสมควรเพื่อให้ได้บริษัทที่ดีเข้ามาเสริมการเติบโตของบริษัทฯ
"บริษัทฯของเรามีขนาดค่อนข้างใหญ่การจะเติบโตมากๆ ก็คงต้องเป็นการเข้าซื้อกิจการ หรือการเข้าร่วมลงทุน ซึ่งก็เป็นแนวทางในการขยายกิจการของเรามาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว"นางอารยา กล่าว
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ จำนวน 230 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงิน 200 ล้านบาทใช้ขยายคลังสินค้าขนาด 9,000-10,000 ตารางเมตร เพื่อรรองรับลูกค้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจุบันมีลูกค้าใหม่เข้ามาจำนวนมาก โดยได้รับประโยชน์จากการที่ต่างชาติย้ายฐานการผลิตจากจีนและเกาหลีเข้ามาในไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ จึงเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยการเติบโตของรายได้จากคลังสินค้า การขนส่งทางเรือ และการขนส่งทางอากาศ ส่วนงบลงทุนอีก 30 ล้าบาทซื้อรถหัวลากใหม่เพื่อรองรับงานที่เพิ่มขึ้น
นางอารยา กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 30% จากปี 59 ซึ่งรายได้ในปีนี้จะถือเป็นการเติบโตสูงสุดของการดำเนินงานในรอบ 24 ปีของ WICE โดยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากขยายตัวของปริมาณงานบริการทุกประเภท ประกอบด้วย งานบริการนำเข้าส่งออกทางทะเล(Sea Freight) ทางอากาศ (Air Freight) งานบริการพิธีการศุลกากร งานขนส่งในประเทศ และงานบริหารจัดการคลังสินค้า
บริษัทก็ยังจะเดินหน้าขยายบริการทุกรูปแบบในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมทั้งต่อยอดงานและโปรโมทงานในกลุ่มงาน Air Freight ร่วมกับ Sun Express Logistics Pte.Ltd (SEL) ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนซื้อรถหัวลาก-หางพ่วงเพิ่มเพื่อรองรับงานขนส่งภายในประเทศและงานขนส่งข้ามชายแดนที่มีปริมาณงานและความต้องการของลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณงานขนส่งภายในประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 3,000 กว่าเที่ยวต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ 2,000 กว่าเที่ยวต่อเดือน
สำหรับงานขนส่งระหว่างประเทศมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญา 1 ปี ในการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่ย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย คิดเป็นมูลค่าการให้บริการอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่ WICE มีความถนัดอยู่แล้ว และในอนาคต WICE มีโอกาสต่อยอดธุรกิจในการเข้าไปรับงานในส่วนคลังสินค้าเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ส่วนธุรกิจคลังสินค้ามีแนวโน้มที่ดี โดยเห็นได้จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้าและการใช้พื้นที่คลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ที่แสดงความสนใจขอใช้บริการ ประกอบกับผู้นำเข้าส่งออกในปัจจุบันหันมาใช้บริการในรูปแบบ Third Party Logistics มากขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีคลังสินค้า จำนวน 2 แห่ง โดยคลังสินค้าแห่งแรกมีขนาด 13,000 ตร.ม. และคลังสินค้าแห่งที่สองมีขนาด 8,000 ตร.ม. นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังรับรู้รายได้จากการดำเนินงานของกิจการ SEL เข้ามาเต็มปีเป็นปีแรก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วนรายได้แบ่งออกเป็น งาน Sea Freight 45% งาน Air Freight 35% และงานขนส่งในประเทศ งานให้บริการพิธีการศุลกากร งานให้บริการจัดการคลังสินค้า 20%
นายอารยา กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงในช่วงไตรมาส 2/60 แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนการขายหุ้น Big Lot ซึ่งหากนักลงทุนมีความสนใจที่จะเข้ามาถือหุ้น บริษัทฯก็แนะนำว่าให้เข้าไปซื้อในกระดานซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์