นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล. เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่ผ่านไป น่าจะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด แต่ปัจจัยถ่วงที่มีอยู่ ทั้งนโยบายของนายทรัมป์และนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นจะทำให้ดัชนีสูงขึ้นได้ไม่มาก แนวโน้มจึงน่าจะออกไปในทาง sideway มากกว่า และการตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ขาดข่าวบวกที่เด่นชัด และขาดแรงซื้อ กลยุทธ์การลงทุน สั้นๆ
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด แต่มีมุมมองต่อเศรษฐกิจว่าขยายตัวดี การพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใด เฟดน่าจะรอดูผลของการใช้นโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ผลการประชุมที่มีต่อตลาดจึงดูเป็นบวก การประชุม FOMC เป็นปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งของสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ FOMC มีกำหนดการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการเงินครั้งต่อไป 15 มี.ค.60 โดยนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นักลงทุนมีความกังวลต่อ "คำสั่งประธานาธิบดี" ที่ออกมาในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตลาดรับรู้กันมาระดับหนึ่งแล้ว เราประเมินว่าปัจจัยตัวนี้ที่ถ่วงตลาดมาหลายวัน น่าจะลดน้ำหนักลง แต่นักลงทุนจะกลับมาให้ความสนใจนโยบายการค้าระหว่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์กันต่อ เพราะมีผลต่อคู่ค้าโดยเฉพาะจีน-ญี่ปุ่น และมีผลไปถึงค่าเงินดอลลาร์ด้วย
ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดไปที่ 53.88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้อานิสงส์จากดอลล่าร์ที่อ่อนค่าและ supply ที่ลดลงจากกลุ่ม OPEC รวมถึงรัสเซีย ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มโลหะ ตลาดจีนปิดทำการ (เปิดทำการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้) ทำให้ราคาทรงๆตัว แต่ demand ของสินค้ากลุ่มนี้ยังสูงอยู่เป็นบวกต่อราคา ราคาปิโตรเคมีจะเด่นในสายของอะโรเมติกส์ เนื่องจากไปเชื่อมโยงกับราคาฝ้ายและยางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นบวกต่อผู้ประกอบการในกลุ่มนี้
สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนกำลังรอดูการทำ preview ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ของบริษัทในตลาด แต่แรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ จะทำให้นักลงทุนกลุ่มอื่น ไม่กล้าเข้ามาลงทุนอย่างจริงจังในช่วงนี้
"เรายังแนะนำ ให้เน้นเล่นหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัวหรือคนที่เล่นหุ้นตลาดหรือหุ้นใหญ่อาจเลือกที่จะ “ถือ" ไว้ก่อนเพื่อรอดูทิศทางตลาด หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น AAV , IRPC , COM7 , ROBINS"