(เพิ่มเติม1) เลขา ส.ป.ก.เผยให้"เทพสถิตฯ"ยุติโครงการหลังศาลฯสั่งยกเลิกเช่าที่ดินฯ-ยืนยันไม่กระทบรายอื่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 2, 2017 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าของบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด มีผลให้บริษัทต้องยุติการดำเนินการไป แต่ยืนยันว่ายังไม่มีผลต่อผู้ประกอบการรายอื่น ๆ โดยภายในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือรายละเอียดของสัญญาของแต่ละบริษัท ซึ่งหากรายใดยังไม่ชัดเจนก็จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสัญญาให้สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้

เลขาธิการส.ป.ก.ยอมรับว่า จากคำสั่งศาลที่ออกมา ทำให้ ส.ป.ก.ต้องมีการทบทวนรายละเอียดของสัญญาของทุกบริษัทที่เคยอนุญาตให้เช่าที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าไว้ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากรายใดที่ไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ประโยชน์กับประชาชนโดยตรง ก็อาจจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสัญญา แต่เบื้องต้นบริษัทอื่นๆ ยังไม่มีคดีฟ้องร้องเข้ามา

"หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบบริษัทอื่นๆ หากไม่ถูกต้องจะต้องเพิ่มมาตรการให้มีกิจกรรมที่เกษตรกรได้รับประโยชน์โดยตรง หากมีการแก้ไขให้ทำประโยชน์ได้ ก็มีโอกาสดำเนินการต่อ" เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุ

สำหรับคำสั่งศาลที่ออกมาเป็นการเพิกถอนมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ เมื่อปี 52 ที่มีมติอนุญาตให้บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เช่าที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าในพื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ โดยมองว่งการขออนุญาตของทางบริษัททำตามหลักเกณฑ์ แต่อาจยังไม่ครบถ้วนในประเด็นที่ต้องทำให้เกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชนในพื้นที่ และเมื่อมีคำสั่งศาลออกมาถือว่ามีผลให้บริษัทต้องยุติการดำเนินการไป แต่ยืนยันว่าคำสั่งศาลดังกล่าวไม่ส่งผลต่อผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ดำเนินกิจการในขณะนี้ ทั้งนี้ นายสมปอง ระบุว่า สมาคมกังหันลมได้ติดต่อเข้าหารือในพรุ่งนี้ เนื่องจากมีความกังวลว่าคำสั่งที่ออกมาจะกระทบกับบริษัทอื่น ๆ และหลังจากนี้จะมีการหารือกับทางบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ด้วย ส่วนกรณีถ้าหากบริษัทได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามคำสั่งศาล จะสามารถเข้ามาขอดำเนินกิจการต่อได้หรือไม่นั้น คงจะต้องหารือกับฝ่ายกฏหมายก่อน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ส.ป.ก.มีการอนุญาตให้เช่าที่ดินทำโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าใน 2 จังหวัด คือ 1.จ.นครราชสีมา มีการอนุญาตรวม 7 บริษัท เนื้อที่ประมาณ 280 ไร่ ซึ่งปัจจุบันดำเนินกิจการแล้ว 2 บริษัท ในพื้นที่รวม 92 ไร่ และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 5 บริษัท ในพื้นที่รวมประมาณ 190 ไร่

สำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เช่าที่ดินเพื่อทำโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้า ได้แก่ บริษัท เฟิร์ส โคราช วินด์ จำกัด (FKW) ผู้พัฒนาโครงการห้วยบง 3 ซึ่งมีบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) และบมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ร่วมถือหุ้นในโครงการด้วย โดยโครงการนี้ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว , บริษัท เค อาร์ ทู จำกัด ผู้พัฒนาโครงการห้วยบง 2 ซึ่งมี RATCH และ DEMCO ร่วมถือหุ้นในโครงการด้วย โดยโครงการนี้ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว

บริษัท เทพารักษ์ วินด์ จำกัด ,บริษัท ทรอปิคอล วินด์ จำกัด , บริเษัท เค อาร์ เอส ทรี จำกัด ,บริษัท กฤษณา วินด์ พาวเวอร์ จำกัด และ บริษัท เค อาร์ วัน จำกัด

2. จ.ชัยภูมิ มีการอนุญาตรวม 13 บริษัท เนื้อที่ประมาณ 380 ไร่ ขณะที่มีการดำเนินกิจการแล้ว 4 บริษัท ในพื้นที่รวม 118 ไร่ ซึ่งในส่วนนี้รวมถึงโรงไฟฟ้าชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม ของบมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ด้วย และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 6 บริษัท ในพื้นที่รวมประมาณ 172 ไร่ ซึ่งในส่วนนี้มีโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานของบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ด้วย และยังไม่ก่อสร้างอีก 2 บริษัท ในพื้นที่รวม 55 ไร่ ซึ่งบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัดอยู่ในส่วนนี้ ในพื้นที่ 39 ไร่ โดยล่าสุดได้ยกเลิก 1 บริษัท คือ บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด

นายสมปอง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว ได้แก่ การเพิ่มข้อกำหนดหรือทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์โดยตรง, การเปลี่ยนไปใช้ระเบียบสาธารณูปโภค โดยเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ปรับปรุงระเบียบกำหนดให้เอกชนผู้ประกอบกิจการสาธารณะ สามารถขออนุญาตได้ และกำหนดค่าตอบแทนการใช้ที่ดินใหม่ให้เหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ