นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสขยับขึ้นได้เล็กน้อย หลังได้รับ sentiment เชิงบวกจากต่างประเทศ แต่ปัจจัยภายในประเทศไม่ได้เป็นบวกมากนัก ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย และเปิดสถานะ short ในฟิวเจอร์ส ขณะที่การทยอยประกาศผลประกอบการของบจ.ในประเทศนั้น หากออกมาตามคาดหมายก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดมากนัก
"ตลาดยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ มีเพียงโมเมนตัมที่หนุนขยับขึ้นได้ การปรับขึ้นก็จะมี upside จำกัด"นายเทิดศักดิ์ กล่าว
พร้อมให้แนวรับวันนี้บริเวณ 1,580 จุด และแนวต้านที่ 1,590 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ก.พ.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,071.46 จุด เพิ่มขึ้น 186.55 จุด (+0.94%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,666.77 จุด เพิ่มขึ้น 30.57 จุด (+0.54%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,297.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.57 จุด (+0.73%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 151.52 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 110.08 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.57 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.06 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.61 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ก.พ.60) 1,582.95 จุด เพิ่มขึ้น 10.28 จุด(+0.65%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 727.36 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ก.พ.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ก.พ.60) ปิดที่ 53.83 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.54%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ก.พ.60) ที่ 6.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.00 แนวโน้มยังแข็งค่าต่อจากแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 34.95-35.05
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจเมียนมาเดินหน้าพัฒนานิคมทวาย ยันไทยสนับสนุนซอฟท์โลนสร้างถนนเข้าโครงการทวาย ด้าน "อาคม" เยือนเมียนมา 10 ก.พ.นี้ หารือโครงการ ขณะทูตพาณิชย์ชี้เมียนมาผุดคณะทำงานคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ เชื่อเป็นรูปแบบการทำงานที่จะช่วยทำให้โครงการเดินหน้าเร็วขึ้น
- สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 57-59) พบว่า ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯและปรมิณฑล "หดตัวต่อเนื่อง" โดยมีสาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวเนื่องจากทิศทางอสังหาฯ เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการอสังหาฯส่วนใหญ่ไม่สามารถเปิดโครงการใหม่ได้ตามเป้าหมาย
- กรรมการผู้จัดการ ของธอส. เปิดเผยว่า ในปี 2560 โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 1-2 ธนาคารเตรียมกรอบวงเงิน 4.12 หมื่นล้านบาท จัดทำแพ็กเกจสินเชื่อให้คนไทยมีบ้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกสาขาอาชีพรวม 6 แพ็กเกจ โดยลูกค้าทุกโครงการสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี และสามารถยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย. 2560
- ผู้จัดการตลาดเอ็มเอไอ มั่นใจบจ.เล็กยัง สามารถระดมทุนได้อย่างไม่มีปัญหา แม้กระแสผิดนัดชำระตั๋ว B/E กดดัน ย้ำส่วนใหญ่มีฐานะการเงินแข็งแรง แจงในแต่ละปีมีบจ.ใช้ B/E เป็นเครื่องมือทางการเงินระดมทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ด้านโบรกเกอร์เผยมีการโรลโอเวอร์ไตรมาสละ 5 แสนล้านบาท คาดสถานการณ์ผิดนัดดีขึ้น
- ธปท.รายงานเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมาลงทุนในไทย (เอฟดีไอ) มีเพียง 282 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9,909 ล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของ ธปท.ที่ 35.14 บาท/เหรียญสหรัฐ ขณะที่ยอดเอฟดีไอทั้งปี 2559 มีมูลค่ารวม 3,286 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.15 แสนล้านบาท ลดลงมากกว่าครึ่ง หรือ 63% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีเงินลงทุนโดยตรง 9,004 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.16 แสนล้านบาท สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
- รมว.พาณิชย์ สั่งทำแผนส่งออกใหม่ รับมือผลกระทบนโยบาย "ทรัมป์" เน้นจัดกิจกรรมผลักดันส่งออกถี่ขึ้นมุ่ง "ซีแอลเอ็มวี" พร้อมดันหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเพื่อผลักดันการค้าการลงทุนให้รวดเร็ว อังกฤษ สหรัฐฯ เมียนมา อิหร่าน พร้อมผลักดันสินค้าใหม่ๆ บุกต่างประเทศ
- ทีโอที เผยการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ จะให้เอกชนร่วมติดตั้ง กำหนดยื่นซอง ในวันที่ 10 ก.พ.2560 สำหรับการขายแบบโครงการอินเตอร์เนต 24,700 หมู่บ้าน เบื้องต้นพบว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลทั้งสิ้น 18 ราย
- ADVANC (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 189 บาท โดยมองผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 กำไรสุทธิ 6,471ล้านบาท -1% qoq, -40% yoy ซึ่งดีกว่าที่ตลาดได้ประเมินไว้เนื่องจากมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการลงทุน 4G ประมาณ 800 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีในส่วนของกำไรจากการดำเนินงาน EBIT อยู่ที่ 8.393 ล้านบาท -8% qoq –39%yoy ซึ่งสาเหตุของการลดลงจาก 1) ค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น 2) มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานคลื่น 2100 MHz และเสาโทรคมนาคมให้กับ TOT ราว 2,400 ล้านบาทต่อไตรมาส เปลี่ยนนโยบายปันผลเหลือไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อคงความแข็งแกร่งของสถานะการเงิน
ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งใบอนุญาต 1800 MHz และ 900 MHz ได้มีการรับรู้ไปในไตรมาส 4 แล้ว รวมถึงการใช้งานคลื่น 2100 MHz และค่าใช้จ่ายในการใช้งานอุปกรณ์ของ TOT ก็ได้มีการรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 4 แล้ว ดังนั้น ตลาดได้รับรู้ถึงภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของบริษัทแล้ว แต่อย่างไรก็ดีการประกาศนโยบายปันผลนั้นลดมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงคาดว่าราคาคงแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบๆจากปัจจัยนโยบายปันผล
- SVI (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท โดยมองแนวโน้มกำไรปกติปี 2560 เติบโตได้ต่อ เนื่องจาก 1) ปัญหาคอขวดที่หมดไปทำให้ส่งสินค้าออกได้ตามปกติที่ผลิตได้ 2) การแตกไลน์สินค้ามากขึ้นซึ่งจากไตรมาส 3/59 ที่ผ่านมาก็มีการผลิตสินค้าใหม่ไปกว่า 6 ชนิดแล้ว และในปี 2560 ก็จะมีลูกค้าด้าน Automotive เข้ามาเพิ่ม 3) จากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในแถบสแกดิเนเวียที่ดีขึ้น อย่างบริษัท Seidel ที่ SVI เข้าไปซื้อกิจการไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2559 คาดว่าจะมี margin ที่ดีขึ้น เพราะมีการปรับปรุง facility และซื้อเครื่องจักรใหม่ นอกจากนี้การเข้าไปซื้อกิจการดังกล่าวมายังทำให้ตัว SVI ที่ประเทศไทยได้รับลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย และ 4) โรงงานใหม่ในกัมพูชาที่กำลังจะเปิดดำเนินการในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งค่าจ้างแรงงานค่อนข้างถูก จึงมองว่ากำไรปกติปี 2560 จะสามารถเติบโตไปอยู่ที่ 757 ล้านบาท (+205.8%) ได้
- BBL (เคจีไอฯ) ให้ราคาพื้นฐาน 189 บาท โดยมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Limit) เป็น 49% จากปัจจุบัน 25% ประเมิน BBL ที่มี Valuation ถูกกว่า KBANK และ SCB* จะกลับมาเป็นตัวเลือกที่ดีของนักลงทุนต่างชาติ (BBL มี PBV 0.92x / KBANK มี PBV 1.47x / SCB มี PBV 1.60x) ขณะที่ประเมินแนวรับ 177 บาท และ 175.5 บาท แนวต้าน 180 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 184 บาท (Stop loss 172.5 บาท)